แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์ได้รับสำเนาพินัยกรรมที่ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายพร้อมกับสำเนาคำให้การของจำเลยแล้ว โจทก์ก็มิได้คัดค้านการนำสืบสำเนาเอกสารดังกล่าว และบอกกล่าวไปยังจำเลยเสียก่อนวันสืบพยาน ดังนั้น โจทก์จึงต้องห้ามมิให้คัดค้านถึงการมีอยู่และความแท้จริง หรือความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 125 วรรคสาม และจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายอ้างเอกสารนั้นก็ไม่ต้องเอาต้นฉบับมาสืบ ศาลจึงมีอำนาจที่จะรับฟังสำเนาพินัยกรรมดังกล่าวได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารอพยพขนย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านเลขที่ 15 ซอยวัดปรก แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาธร กรุงเทพมหานคร และออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 933 ตำบลบ้านทวาย (ตำบล ทุ่งวัดดอน) อำเภอบางรัก (อำเภอสาธร) จังหวัดกรุงเทพมหานคร และห้ามมิให้เข้าเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ให้จำเลย ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 24,500 บาท กับค่าเสียหายอีกเดือนละ 3,500 บาท นับถัดจากวันฟ้อง จนกว่าจำเลยจะอพยพ ขนย้ายทรัพย์สินออกไป
จำเลยให้การว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย จำเลยจึงมีอำนาจและหน้าที่จัดการทรัพย์มรดกร่วมกับนางสมหญิง จำเลยจึงมีสิทธิอยู่อาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทจนถึงปี 2550 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลชั้นต้นรับฟังสำเนาพินัยกรรมเอกสารหมาย ล. 4 โดยจำเลยไม่ได้ส่งต้นฉบับเอกสารต่อศาลนั้นเป็นการชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อโจทก์ได้รับสำเนาพินัยกรรมดังกล่าวพร้อมกับสำเนาคำให้การของจำเลยแล้ว โจทก์ก็มิได้คัดค้านการนำสืบสำเนาเอกสารดังกล่าว และบอกกล่าวไปยังจำเลยเสียก่อนวันสืบพยาน ดังนั้น โจทก์จึงต้องห้ามมิให้คัดค้านถึงการมีอยู่และความแท้จริง หรือความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 125 วรรคสาม และจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายอ้างเอกสารนั้นก็ไม่จำต้องเอาต้นฉบับมาสืบ ศาลจึงมีอำนาจที่จะรับฟังสำเนาพินัยกรรมเอกสารหมาย ล.4 ได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ศาลฎีกา เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.