คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะมิได้มอบฉันทะให้ ว.ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดย ว.นำคำร้องมายื่น อันเป็นการไม่ถูกต้องนั้น อาจเป็นไปได้ว่าโจทก์ไม่จงใจขาดนัดและศาลอาจสั่งให้เลื่อนไปได้เองโดยไม่ต้องอาศัยคำร้องดังกล่าว แต่อาศัยประมาณกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 39 ในข้อที่ว่า ในกรณีอื่นใดซึ่งศาลเห็นว่าถ้าได้เลื่อนการพิจารณาไปจักทำให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดี เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายสี่เก็ง แซ่เบ๊ ตามคำสั่งศาลแพ่งคดีหมายเลขแดงที่ ๔๑๓๗/๒๕๑๓ จำเลยละเลยต่อหน้าที่อันจะต้องปฏิบัติในฐานะผู้จัดการมรดกและประพฤติตนไม่เหมาะสมกับผู้จัดการมรดก โจทก์เป็นบุตรของนายสี่เก็ง ขอให้ศาลมีคำสั่งถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดกรมรดก แต่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทน
จำเลยให้การต่อสู้คดี
ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา เมื่อถึงวันนัด โจทก์และทนายโจทก์ทั้งพยานโจทก์ไม่มาศาล แต่โจทก์มอบฉันทะให้นายวรวิทย์ ณ นครพนม มาฟังคำสั่งและทราบกำหนดวันนัด นายวรวิทย์ได้ยื่นคำร้องของโจทก์และของทนายโจทก์ต่อศาล ฉบับของทนายโจทก์เป็นเรื่องขอถอนตัวจากการเป็นทนายให้แก้โจทก์ ฉบับของโจทก์เป็นเรื่องขอเลื่อนคดีเพื่อหาทนายใหม่ ศาลเห็นว่าการยื่นคำร้องทั้ง ๒ ฉบับกระทำโดยผู้ปราศจากอำนาจ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงไม่รับคำร้องไว้พิจารณาและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ฝ่ายจำเลยแถลงไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ไม่มีเหตุสมควรจะถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกและตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทน พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์ต่อไป และหากจำเลยประสงค์จะสืบพยานโจทก์หักล้างก็อนุญาต แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกาว่า การยื่นคำร้องขอเลื่อนของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ควรให้โจทก์เลื่อนการสืบพยานโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่าแม้โจทก์จะมิได้มอบฉันทะให้นายวรวิทย์ ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเป็นการไม่ถูกต้อง แต่การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยนายวรวิทย์ นำคำร้องมายื่นนั้น อาจเป็นไปได้ว่าโจทก์ไม่จงใจขาดนัดและศาลอาจสั่งให้เลื่อนไปได้เองโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคำร้องของโจทก์ที่ขอเลื่อนคดีที่ยื่นมาไม่ถูกต้องนั้น แต่อาศัยประมาณกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๙ ในข้อที่ว่า ในกรณีอื่นใดซึ่งศาลเห็นว่าถ้าได้เลื่อนการพิจารณาไปจักทำให้ความยุติธรรมดำเนินไปด้วยดี เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคำสั่งเลื่อนการพิจารณาต่อไปจนกว่าจะได้มีคำพิพากษาก็ได้
สำหรับคดีนี้โจทก์จำเลยยังมิได้สืบพยาน ทั้งปรากฏด้วยว่าทนายโจทก์ได้ขอถอนตัว ซึ่งศาลยังไม่มีคำสั่งคำร้องของทนายโจทก์ เมื่อพิเคราะห์รูปคดีโดยตลอดแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าสมควรให้โจทก์เลื่อนการสืบพยานโจทก์ไป
พิพากษายืน
(ปรีชา สุมาวงศ์ สงวน สิทธิไชย อุดม จาละ)

Share