แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปิดอากรสแตมมหรสพไม่ครบและไม่ขีดค่าอากรสแตมป์ไนการแสดงมหรสพครั้ง 1 นั้น แม้จะเปนตั๋วกี่ฉบับก็ตามก็ถือว่าเปนความผิดถานปิดอากรสแตมป์ไม่ครบกะทงหนึ่งและถานไม่ขีดค่าอากรสแตมป์อีกกะทงหนึ่ง
กรนีที่ถือว่าสาลถามคำไห้การจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ได้รับตามฟ้องของโจท.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยทั้ง ๒ กระทำผิด คือ จำเลยที่ ๑ เปนเจ้าของสนามชนโค จำเลที่ ๒ เปนผู้รับตั๋ว จำเลยที่ ๑ ทำตัวไม่ถูกต้องตามกดหมาย โดยไม่ระบุสถานที่ และเจ้าของสนามกับไม่ระบุวันและชั้นที่เข้าดู ๒๐ ฉบับ ไม่กำหนดวันเข้าคู่ ราคาและชั้นที่ดู ๒๙๖ ฉบับ ปิดสแตมป์ไม่ครบ ๙๖ ฉบับ ไม่ขีดค่า ๙๐ ฉบับ จำเลยที่ ๒ อนุญาตไห้คนที่ถือตั๋วไม่ปิดอากรสแตมป์ไห้ครบและมิได้ขีดค่าเข้าดู ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การว่า จำเลยที่ ๑ เปนเจ้าของรับผิดชอบดำเนินการสนามชนโคพนันจำเลยที่ ๒ ได้รับแต่งตั้งไห้เปนผู้รับตั๋วเข้าดู จำเลยได้ทำตั๋วไม่ระบุสถานที่และเจ้าของสนามชนโคกับไม่ระบุวัน ราคาและชั้นเข้าดู ๒๐ ฉบับ ไม่กำหนดวัน เข้าดู ราคา ชั้นที่ดู ๒๙๖ ฉบับ และจำเลยที่ ๑ ได้ขายตั๋วไม่ปิดอากรสแตมป์มหรสพไห้ครบถ้วน ๙๖ ฉบับ
สาลชั้นต้นพิพากสาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวนรัสดากรมาตรา ๑๔๒ ฝ่าฝืนมาตรา ๑๓๓ ถานไม่ขีดค่าสแตมป์ที่ปิดบนตั๋ว และผิดมาตรา ๑๓๕ ถานรับตั๋วปิดสแตมป์ไม่ครบถ้วน แต่โจทไม่บันยายฟ้อง และนำสืบว่าตั๋วไม่ขีดค่า ๙๐ ฉบับและมิได้ปิดอากรไห้ครบถ้วน ๙๖ ฉบับนั้นเปนกี่รายต้องฟังว่าจำเลยทำผิดหย่างละรายเท่านั้น ไห้ปรับ ๒ ราย ๔๐ บาทและผิดมาตรา ๑๔๓ ฝ่าฝืนมาตรา ๑๓๖ ปรับคนละ ๔๐ บาท แล้วลดกึ่ง ๑ ของกลางริบ
สาลอุธรน์ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๒ นอกนั้นยืน
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่าตามสำนวนปรากตว่าสาลชั้นต้นจดถามคำไห้การจำเลยทั้งสอง แล้วโจทจำเลยแถลงต่อสาลว่าไม่สืบพยานจะฟังว่าสาลยังไม่ได้ถามคำไห้การจำเลยไม่ได้ เมื่อไม่ปรากตว่าจำเลยที่ ๒ รับสารภาพก็ลงโทสไม่ได้ ส่วนข้อที่โจทดีกาว่าตาม ม. ๑๔๒ ไห้ปรับผู้ฝ่าฝืน ม. ๑๔๓ หรือ ๑๓๕ ไม่เกินรายละ ๕๐ บาทฯนั้นหมายความว่าเปนรายบุคคลผู้ซื้อตั๋วเข้าดูหรือรายฉบับของตั๋วที่ผิดกดหมาย สาลดีกาเห็นว่าถ้ากดหมายมุ่งดังโจทว่าก็คงจะเขียนตรงไปตรงมาเช่นนั้น ถ้าไม่เขียนไว้ก็ต้องเข้าไจตามภาสาสามัญ ส่วนที่ว่าการกะทำหย่างไรเปนราย ๑ โจทจะต้องบันยายมาชัดเจน คดีนี้ฟ้องโจทไม่ได้บันยายว่าจำเลยทำผิด ๑๘๖ ราย จึงคงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.