แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเพื่อจะลักทรัพย์แต่ผู้เสียหายตื่นขึ้นมาพบจำเลยเสียก่อน จำเลยจึงทำการลักทรัพย์ไปไม่ตลอดการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางที่ได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า และเป็นการเข้าไปในเคหสถานในความครอบครองของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร ความผิดตามฟ้องรวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวคือ ความผิดฐานลักทรัพย์และบุกรุก ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานบุกรุกตามที่พิจารณาได้ความ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า วันเกิดเหตุเวลากลางคืน จำเลยปีนเข้าทางหน้าต่างบ้านซึ่งเป็นช่องทางที่ได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าและเข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของ ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต และลักเอาทรัพย์ของ ม. ซึ่งเก็บรักษาไว้ในเคหสถานดังกล่าวขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 335(1) (4) (8) วรรคสาม, 364 ประกอบ 365 วรรคสามลงโทษตามมาตรา 365 วรรคท้าย ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90 จำคุก3 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก2 ปี คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อจะลักทรัพย์แต่ผู้เสียหายตื่นขึ้นมาพบจำเลยเสียก่อน จำเลยจึงทำการลักทรัพย์ไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางที่ได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) (4) (8)วรรคสาม ประกอบด้วยมาตรา 80 และขณะเดียวกันก็เป็นการเข้าไปในเคหสถานในความครอบครองของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรในเวลากลางคืน อันเป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) ด้วย
เมื่อความผิดที่โจทก์ฟ้องและฟังได้ความรวมการกระทำหลายอย่างแต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้อยู่ตัวคือ ความผิดฐานลักทรัพย์และบุกรุก ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานบุกรุกตามที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.