แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งไม่อนุญาตให้อ. ซึ่งเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดและเป็นธุระจัดหาผู้หญิงเพื่อส่งไปประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 16 อ.ย่อมมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12(10) คำสั่งนั้นย่อม มีผลใช้บังคับได้จนกว่าถูกยกเลิกหรือเพิกถอน หลังจากนั้นอ. ได้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรหลายครั้ง โดยได้รับอนุญาตและมีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่ก็หามีผลทำให้อ. กลับกลายเป็นคนต่างด้าวที่มีลักษณะไม่ต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรไม่ ดังนั้นเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจพบ อ. ในราชอาณาจักร จึงจับอ.ส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรตามมาตรา 22และ 54 แต่พนักงานอัยการขอรับตัว อ.มาฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469ก่อนแม้ศาลในคดีดังกล่าวจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว อ.กับห้ามมิให้อ.เดินทางออกนอกราชอาณาจักร และแม้อ. จะมีกำหนดเดินทางออกนอกราชอาณาจักรก่อนถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมไม่กี่วันก็ตาม แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ คนเข้าเมืองฯ มาตรา 54 วรรคสาม ก็มีอำนาจรับตัวและกักตัว อ. ไว้ต่อไปได้ ณ สถานที่ใดเป็นเวลานานเท่าใดตามความจำเป็นเนื่องจาก อ.เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว เมื่อไม่ได้ความว่าคำสั่งของ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ให้กักตัว อ. เพื่อรอการส่งกลับออกนอกราชอาณาจักรฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงถือไม่ได้ว่าการกักตัว อ. เป็นการคุมขังที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันจะเป็นเหตุให้ศาลสั่งปล่อยตัว อ.ตามที่ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาของ อ. ร้องต่อศาลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 240 ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องอยู่กินฉันสามีภริยากับนายอูลริค โวล์ฟกัง หรือโวล์ฟกัง อูลริค สัญชาติเยอรมัน มาตั้งแต่ปี 2534 มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กหญิงราโมนา อูลริค และร่วมกันทำธุรกิจหลายอย่างในประเทศไทย เป็นเวลาประมาณ 7 ปีแล้ว นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ถือหนังสือเดินทางประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หมายเลข 9312015140 เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรมาหลายครั้งโดยถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า 10 ปี นอกจากนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค จะมีธุรกิจในประเทศไทยแล้วยังมีธุรกิจในต่างประเทศอีกมากมายมีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านบาทนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ไม่เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน สถานเอกอัครราชฑูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีหนังสือรับรองว่า นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริคไม่มีรายการบันทึกอยู่ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ทางราชการต้องการตัวและไม่เคยมีคำสั่งห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ครั้งสุดท้ายเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2541โดยถูกต้องและได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรจนถึงวันที่26 กันยายน 2541 แต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2541 นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ถูกเจ้าพนักงานตำรวจ จับโดยกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวที่ต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 689/2540 ขณะอยู่กับผู้ร้องที่สำนักงานของบริษัทบาวาเรียเฮ้าส์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 216/62 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ต่อมาวันที่ 15 กันยายน 2541 นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ถูกส่งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและถูกกักตัวไว้จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2541 พนักงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจจึงขอรับตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ไปดำเนินคดีในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรและความผิดต่อพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เป็นจำเลยในความผิดดังกล่าวต่อศาลชั้นต้น ระหว่างการพิจารณาเมื่อวันที่18 ธันวาคม 2541 นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริคยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแต่ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและได้แจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขออายัดตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค และกักตัวไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าวตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2541 เป็นต้นมาซึ่งเป็นการคุมขังหรือกักตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ไต่สวนและดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 240กับมีคำสั่งให้ปล่อยตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว เห็นว่า คำร้องมีมูลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 240 หมายเรียกผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือผู้แทนผู้คุมขังให้นำตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ผู้ถูกคุมขังมาศาล
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า ผู้คุมขังแสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่าการคุมขังผู้ถูกคุมขังเป็นการชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเหตุให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 240ให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาผู้ร้องว่าพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค คนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ได้ความจากคำเบิกความของพันตำรวจเอกวัชระ สังวรโยธินผู้กำกับการฝ่าย 3 ตม.2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการกักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรว่า เกี่ยวกับคดีนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 689/2540 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2540ไม่อนุญาตให้นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ต่อมาวันที่ 14 กันยายน 2541 เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรตำบลพัทยาร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองพัทยาจับนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค แล้วนำส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร แต่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน คดีเศรษฐกิจมีหนังสือ ที่ 0611.8/5609 ลงวันที่ 25 กันยายน 2541 ขออายัดตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ไว้ดำเนินคดีในความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร และรับตัวไปดำเนินคดีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2541 ต่อมาพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เป็นจำเลยในความผิดดังกล่าวต่อศาลชั้นต้น ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 8935/2541 ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ได้รับการปล่อยชั่วคราว แต่เนื่องจากนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เป็นคนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงรับตัวและกักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ไว้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2541 เพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522มาตรา 22 และ 54 เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 16 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวผู้ใดหรือจำพวกใดเข้ามาในราชอาณาจักร ในกรณีที่มีพฤติการณ์ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่ประเทศหรือเพื่อความสงบเรียบร้อยวัฒนธรรมหรือศีลธรรมอันดี หรือความผาสุกของประชาชน ไม่สมควรอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้นั้นหรือจำพวกนั้นเข้ามาในราชอาณาจักร และเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร คนต่างด้าวผู้นั้นหรือจำพวกนั้นย่อมมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12(10) เมื่อพิจารณาคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 689/2540 เรื่องไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรจำนวน 34 คน ตามเอกสารหมาย พ.18 โดยมีนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค อยู่อันดับที่ 17 ตามสำเนาบัญชีรายชื่อคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด สมควรประกาศเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวลฟ์กัง อูลริค มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดและเป็นธุระจัดหาผู้หญิงเพื่อส่งไปค้าประเวณีที่ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามหนังสือสถานีตำรวจภูธร ตำบลพัทยา ลับที่ 0618.1(2)/15 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2540 และบันทึกรายงานของ สว.งาน 3 กก.1 ส.1 ในการประชุมโครงการรวบรวมข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและมีพฤติการณ์ด้านยาเสพติด ครั้งที่ 1/2540 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2540 พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ซึ่งเป็น 1 ในจำนวน 34 คนดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรที่ผู้ร้องฎีกาว่านายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ไม่มีพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ถูกกลั่นแกล้งไม่ให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นเห็นว่า อำนาจในการพิจารณาสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นอำนาจโดยเฉพาะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 16 เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามาในราชอาณาจักร คำสั่งนั้นย่อมมีผลใช้บังคับได้จนกว่าถูกยกเลิกหรือเพิกถอน เมื่อยังไม่มีการยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค จึงยังคงเป็นคนต่างด้าวที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร แม้ผู้ร้องจะฎีกาว่า นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรหลายครั้ง โดยได้รับอนุญาตและมีหนังสือเดินทางถูกต้องตามสำเนาหนังสือเดินทางเอกสารหมาย พ.15 ก็ตาม ก็หามีผลทำให้นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค กลับกลายเป็นคนต่างด้าวที่มีลักษณะไม่ต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรไม่ และเป็นเรื่องที่นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค อาจถูกคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งเพิกถอนการอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 53 ที่ผู้ร้องฎีกาว่านายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค กำหนดจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรวันที่ 25 กันยายน 2541 โดยได้ซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินไว้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจับนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2541 แล้วนำส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อกักตัวไว้รอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรนั้น เห็นว่าการกักตัวคนต่างด้าวที่เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคสาม บัญญัติให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะกักตัวคนต่างด้าวผู้นั้นไว้ ณ สถานที่ใดเป็นเวลานานเท่าใดตามความจำเป็นก็ได้ฉะนั้นแม้นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค มีกำหนดเดินทางออกนอกราชอาณาจักรวันที่ 25 กันยายน 2541 แต่เมื่อนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เป็นคนต่างด้าวเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมมีอำนาจที่จะกักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาว่า ในคดีอาญาที่นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ถูกฟ้องเป็นจำเลยศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แต่ห้ามมิให้นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เดินทางออกนอกราชอาณาจักร พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงหมดความจำเป็นที่จะกักตัวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรนั้น เห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเป็นการสั่งในคดีอาญาที่นายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลชั้นต้นส่วนการกักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคสาม ซึ่งให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะสั่งได้หลายกรณีเมื่อไม่ได้ความว่าคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ให้กักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงถือไม่ได้ว่าการกักตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค เป็นการคุมขังที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอันจะเป็นเหตุให้ศาลสั่งปล่อยตัวนายอูลริค โวล์ฟกังหรือโวล์ฟกัง อูลริค ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 240 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของ ผู้ร้องชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน