คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพร้อมกับโทรศัพท์ให้แก่จำเลยทั้งสองเพื่อดำเนินกิจการโรงแรม แต่อาคารพิพาทจะใช้เป็นโรงแรมได้ต่อเมื่อโจทก์ได้แก้ไขตามเงื่อนไขของเจ้าพนักงานกรุงเทพมหานคร โจทก์มิได้แก้ไขและล่วงเลยเวลาที่แก้ไขก่อนที่โจทก์และจำเลยทั้งสองทำสัญญาจะซื้อจะขายกัน 3 ปีแล้ว โจทก์ปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งควรจะแจ้งให้จำเลยทั้งสองทราบ และหากจำเลยทั้งสองได้ทราบแล้วคงจะไม่ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายด้วย กรณีถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาด้วยสำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์ซึ่งนับว่าเป็นสาระสำคัญสัญญาจะซื้อจะขายจึงเป็นโมฆียะกรรม เมื่อจำเลยทั้งสองได้บอกล้างแล้วย่อมตกเป็นโมฆะ คู่กรณีจึงกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยทั้งสองไม่มีความผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายและไม่จำต้องชำระหนี้ตามเช็คพิพาทที่จำเลยทั้งสองสั่งจ่ายชำระราคาให้แก่โจทก์

Share