แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกับส. ให้แบ่งแยกที่ดินส่วนของ ส. ให้โจทก์ และโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อจำเลยในฟ้องจากนางสาวสนธนาเป็นนางสาวสมธนา ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์ประสงค์จะฟ้องผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกับ ส. คือจำเลยนั่นเอง โจทก์เพียงแต่จะขอแก้ชื่อที่ผิดเพี้ยนให้ตรงกับความจริงเท่านั้น และการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องดังกล่าวก็กระทำก่อนส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลย ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งอนุญาตให้แก้ฟ้องได้ โดยส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องพร้อมกับคำร้องขอแก้ฟ้องและคำสั่งศาลให้จำเลย ไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยทราบล่วงหน้าเพื่อให้จำเลยมีโอกาสคัดค้าน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 181
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมนายสมมุ่งกับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินโฉนดที่ 5110 และได้แยกการครอบครองกันคนละครึ่งเป็นส่วนสัด นายสมมุ่งได้ขายฝากที่ดินส่วนของตน พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างคือบ้านเลขที่ 729/11 ไว้กับโจทก์แล้วไม่ไถ่คืน ขอให้พิพากษาแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทและบ้านเป็นของจำเลยซึ่งเป็นผู้เยาว์นายสมมุ่ง ไม่มีอำนาจเอาไปขายฝากโดยมิได้รับอนุญาตจากศาล ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินตามฟ้อง และให้โจทก์ได้บ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ด้วย ถ้าแบ่งไม่ได้ให้ขายทอดตลาดและแบ่งเงินกันตามส่วน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บ้านพิพาทเป็นของนายสมมุ่งซึ่งขายฝากโจทก์พร้อมกับที่ดินจริงตามฟ้อง และวินิจฉัยต่อไปว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ขอแก้ฟ้องศาลชั้นต้นมิได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยทราบล่วงหน้า จำเลยไม่มีโอกาสคัดค้านศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องไม่ชอบนั้น คดีได้ความว่าโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อจำเลยในฟ้องจากนางสาวสนธนาเป็นนางสาวสมธนา ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง และให้ส่งหมายเรียกสำเนาฟ้องพร้อมกับคำร้องขอแก้ฟ้องและคำสั่งศาลให้จำเลยทราบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่า โจทก์ประสงค์ที่จะฟ้องผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินร่วมกับนายสมมุ่งคือจำเลยนั่นเอง เพียงแต่ขอแก้ชื่อที่ผิดเพี้ยนให้ตรงกับความจริงเท่านั้น อีกทั้งการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องก็กระทำก่อนส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลย กรณีเช่นนี้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้แก่ฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยทราบล่วงหน้าเพื่อให้จำเลยมีโอกาสคัดค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181 ที่ศาลล่างทั้งสองอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องมานั้นชอบแล้ว ฎีกาข้ออื่น ๆ ของจำเลยนอกจากนี้เห็นว่าไม่เป็นสาระแก่คดีไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน