คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยขุดคูรับน้ำที่ล้างรถจักร์ มีคราบน้ำมันเครื่องปนไหลออกมาเป็นฝาเต็มคู มีคนจุดไฟไหม้กองขยะที่คนเอาไปทิ้งริมคู ความร้อนของไฟทำให้คราบน้ำมันลุกไหม้รถยนต์แล้วไหม้บ้านโจทก์ที่อยู่คนละฝั่งคู จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 129,000 บาท ฐานประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ค่าเสียหายเป็น214,000 บาท จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่าการที่เกิดเพลิงไหม้บ้านโจทก์นั้น จำเลยจะต้องรับผิดหรือไม่ ได้ความจากโจทก์ นางโผเถ่า แซ่ลี้ นายสนิทแตงผลดก พันตำรวจโทศักดิ์เลิศ กรรณสูต ว่าไฟเริ่มไหม้ที่กองขยะริมคลองก่อน แล้วลุกลามไปไหม้รถยนต์ของนายประดับ ตรีวี ต่อจากนั้นไฟลุกลามไปตามน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำในคู ข้ามคูไปไหม้บ้านโจทก์ซึ่งตั้งอยู่คนละฝั่ง คูที่ว่านี้ได้ความว่าเป็นของจำเลยขุดขึ้นกว้างประมาณ 20 เมตร จำเลยตั้งโรงงานซ่อมรถจักรดีเซลทางด้านตะวันออกของคู บ้านโจทก์อยู่ทางด้านตะวันตกของคูคนละฝั่งคู จำเลยทำท่อระบายน้ำจากโรงงานออกมาสู่คูนี้สองทาง คือทางด้านเหนือและด้านใต้ของโรงงาน น้ำมันเครื่องและน้ำมันโซล่าที่ใช้ล้างเครื่องรถจักรดีเซลจากโรงงานของจำเลยปะปนกับน้ำที่ใช้ล้างไหลออกทางท่อระบายน้ำสู่คูที่ว่านี้เป็นประจำ ขณะเกิดเหตุมีน้ำมันลอยเป็นฝาเต็มไปหมด นายสวัสดิ์ม้าไว ผู้ควบคุมการซ่อมรถจักรของจำเลยและนายบุญมี แต่งกลอน พนักงานของจำเลยมาเป็นพยานจำเลยข้อเท็จจริงคงได้ความจากพยานจำเลยทั้งสองว่ามีน้ำมันจากโรงงานจำเลยไหลทางท่อระบายน้ำของโรงงานสู่คู ได้ความจากนายหิรัญ เนติพิชญวิจารณ์ พยานจำเลยต่อไปว่า น้ำมันเครื่องที่หมักหมมอยู่ในคูนานนี้ถ้ามีสื่อเช่นหญ้าหรือเศษไม้ไปคลุกเคล้ากับน้ำมันนั้นก็จุดไฟลุกได้และได้ความจากนายโชติ ฉัตรสุวรรณ พยานจำเลยว่า กองขยะที่เด็กจุดไฟในวันเกิดเหตุนั้น เปลวไฟแรงพุ่งสูงเกือบถึงยอดต้นก้ามปู ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์น่าเชื่อว่าความร้อนแรงของไฟที่ลุกไหม้กองขยะเช่นกรณีนี้สามารถลุกไหม้น้ำมันที่ลอยบนผิวน้ำในคูจนกระทั่งลุกลามไปไหม้บ้านของโจทก์ซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งคูซึ่งห่างออกไปเท่ากับความกว้างของคูประมาณ 20 เมตร หาใช่ไฟไหม้กองขยะหนึ่งแล้วลุกลามไหม้กองขยะที่ชาวบ้านทิ้งตามริมคลองและในคลองไปเรื่อย ๆ จนไหม้บ้านของโจทก์ดังที่จำเลยฎีกาไม่”

พิพากษายืน

Share