แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีฟ้องเรียกให้ชำระเงินค่าซื้อวัสดุก่อสร้างที่ค้างชำระโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้ติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ แต่ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า จำเลยได้มอบให้ ก. เป็นตัวแทนมาติดต่อขอซื้อไปจากโจทก์ ดังนี้ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดในการติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์อันเป็นมูลแห่งหนี้ ซึ่งเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง มิใช่เป็นการนำสืบนอกข้อหาในคำฟ้องอันจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนคำฟ้องไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1025/2516)
เมื่อ ก. สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในฐานะตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างไปจากโจทก์รวม 10 คราว เป็นเงิน 174,100.71 บาท และได้รับวัสดุก่อสร้างไปแล้ว จำเลยได้ชำระเงินแก่โจทก์เพียง 50,000 บาท โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยไม่ชำระให้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินที่ค้าง 124,100.71 บาท และค่าเสียหาย จนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่เคยติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ และไม่ได้รับวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ และไม่เคยชำระค่าสินค้าแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยไม่ได้ซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่โจทก์นำสืบว่า นายเก๋งเฝี่ยนเป็นตัวแทนของจำเลยไปติดต่อซื้อไม้จากโจทก์นั้น เป็นการนำสืบนอกข้อหาในฟ้อง รับฟังไม่ได้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์รวม 10 คราว เป็นเงิน 174,100.71 บาท และได้รับวัสดุก่อสร้างดังกล่าวไปแล้ว ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่าจำเลยได้มอบหมายให้นายเก๋งเฝี่ยนเป็นตัวแทนมาติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างไปจากโจทก์นั้น เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดในการติดต่อขอซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ อันเป็นมูลหนี้ซึ่งเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง หาใช่เป็นการนำสืบนอกข้อหาในคำฟ้องอันจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนคำฟ้องไม่ได้ ดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่
เมื่อนายเก๋งเฝี่ยนสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างรายพิพาทในฐานะเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์จำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมด้วย
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองชำระราคาสินค้าตามฟ้อง