แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลในการพิจารณาคดี โดยกล่าวในฟ้องเพียงว่า การเบิกความอันเป็นเท็จของจำเลยดังกล่าวนั้น เป็นข้อสำคัญในคดีแต่ไม่ได้บรรยาย ให้เห็นว่าเป็นข้อสำคัญอย่างไร ฟ้องของโจทก์จึงไม่พอให้ฟังว่า คำเบิกความของจำเลยนั้น เป็นข้อสำคัญในคดีอันควรมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็พิพากษายกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญา ต่อศาลจังหวัดหนองคาย ในคดีที่นายวิชัยต้องหาว่าทุจริตต่อหน้าที่มีความว่านายสมดี วรฐิติ ขอทำบัตรประชาชนเป็นคนไทยเซ็นชื่อภาษาไทยไม่ได้ ได้แต่เซ็นเป็นภาษาอังกฤษ จำเลยมิได้ถามปลัดวิชัยและจำเลยทำไปตามระเบียบมิได้มีใครสั่งให้ทำซึ่งความจริงนายสมดี วรฐิติ เซ็นชื่อเป็นภาษาไทยไม่ได้ โดยเซ็นชื่อเป็นภาษาอังกฤษจำเลยได้ถามปลัดวิชัยว่าจะขอทำบัตรประชาชนได้หรือ ปลัดวิชัยบอกว่าเขามีทะเบียนบ้านทำได้ไม่เป็นไร การเบิกความเท็จของจำเลยดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อสำคัญในคดี ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลดังฟ้องไม่เป็นข้อสำคัญในคดี ลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ว่า ข้อความที่จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลเป็นข้อสำคัญในคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำฟ้องและคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยได้เบิกความในการพิจารณาคดีต่อศาล ในคดีที่นายวิชัย คล่องดี ถูกฟ้องเป็นจำเลยข้อหาว่าทุจริตต่อหน้าที่มีข้อความเป็นเท็จดังคำบรรยายฟ้องของโจทก์คดีมีปัญหาว่า คำเบิกความของจำเลยดังที่บรรยายไว้ในคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญาที่นายวิชัย คล่องดี ถูกฟ้องเป็นจำเลยข้อหาว่าทุจริตต่อหน้าที่มีข้อความว่า นายสมดี วรฐิติ ขอทำบัตรประชาชนเป็นคนไทย เซ็นชื่อภาษาไทยไม่ได้ ได้แต่เซ็นชื่อเป็นภาษาอังกฤษ จำเลยมิได้ถามปลัดวิชัยและจำเลยทำไปตามระเบียบมิได้มีใครสั่งให้ทำ ซึ่งความจริงจำเลยได้ถามปลัดวิชัยแล้ว แต่ตามฟ้องโจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่าข้อความอันเป็นเท็จดังที่จำเลยเบิกความเป็นประเด็นอันเป็นข้อสำคัญในคดีดังกล่าวนั้น เป็นข้อสำคัญอย่างไร ฉะนั้น เมื่อไม่ได้ความตามฟ้องโจทก์คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวมาแล้ว จึงไม่พอที่จะทำให้ฟังไปได้ว่าคำเบิกความที่จำเลยเบิกความไปนั้น เป็นข้อความสำคัญในคดีอันควรมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยไม่มีความผิดฐานนี้ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน