แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เครื่องมืออวนครอบ ใช้ประกอบกับเรือยนต์ที่มีขนาดความยาวเรือตลอดลำ 19.20 เมตร ทำการประมงจับสัตว์น้ำในทะเล โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าเครื่องมืออวนดังกล่าวมีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรหรือไม่ และจำเลยทั้งสองใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือไม่ หากเครื่องมืออวนครอบ ที่จำเลยทั้งสองใช้มิได้มีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซ็นติเมตรหรือจำเลยทั้งสองมิได้ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การกระทำของจำเลยทั้งสองก็ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิด ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 32, 60, 65, 71 ป.อ. มาตรา 83 และจ่ายเงินบำเหน็จให้แก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32, 65 ป.อ. มาตรา 83 จำคุกคนละ 4 เดือน จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 2 เดือน กับให้จำเลยทั้งสองจ่ายเงินบำเหน็จแก่ผู้นำจับคนละ 1,000 บาท ไม่ชำระค่าบำเหน็จให้กักขังแทน ตาม มาตรา 71 ประกอบ ป.อ. มาตรา 29, 30
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง และให้คืนเงินค่าบำเหน็จที่จำเลยทั้งสองได้ชำระไว้ต่อศาลชั้นต้นแก่จำเลยทั้งสอง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 32, 65 หรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เครื่องมืออวนครอบ ใช้ประกอบกับเรือยนต์ที่มีขนาดความยาวเรือตลอดลำ 19.20 เมตร ทำการประมงจับสัตว์น้ำในทะเล โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าเครื่องมืออวนดังกล่าวมีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร หรือไม่ และจำเลยทั้งสองใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือไม่ หากเครื่องมืออวนครอบที่จำเลยทั้งสองใช้มิได้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร หรือจำเลยทั้งสองมิได้ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การกระทำของจำเลยทั้งสองก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ. การประมง พ.ศ. 2490 คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิด ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)
พิพากษายืน.