คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องสอดกับ ล. สมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ดังนั้น หากมีข้อกล่าวอ้างถึงความสมบูรณ์ในเรื่องการสมรสหรือการหย่าขึ้นหลังจากได้มีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ใช้บังคับแล้ว การสมรสหรือการหย่าจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามบทกฎหมายขณะที่ใช้อยู่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องสอดกับ ล. มิได้จดทะเบียนหย่าให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1499 ข้ออ้างการหย่าที่จำเลยยกขึ้นอ้างจึงไม่มีผลตามกฎหมาย แม้จะได้ความว่าคู่สมรสจะได้เลิกร้างแยกกันอยู่ ก็หาทำให้การเป็นสามีภรรยาของคู่สมรสขาดจากกันไม่
ที่ดินโฉนดพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องสอดกับ ล. ที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกกันมาก่อน ต่อมา ล. ถึงแก่ความตาย ความเป็นสามีภรรยาระหว่างคนทั้งสองย่อมขาดจากกันนับแต่วันที่ ล. ตาย สินสมรสจึงต้องแยกจากกันและการแบ่งสินสมรสสำหรับบุคคลทั้งสอง แม้จะเป็นกรณีพิพาทกันหลังจากมีพระราชบัญญัติให้ใช้บัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ใช้บังคับแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนกับการสมรสและความสัมพันธ์ในครอบครัวอันเกิดแก่การสมรสนั้นๆ ซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมาย บรรพนี้ ตามมาตรา 4(1) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว การแบ่งสินสมรสของคนทั้งสองจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องสอดเป็นฝ่ายที่มีสินเดิมมาฝ่ายเดียว ล. ไม่มีสินเดิมที่ดินตามโฉนดพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสจึงตกได้แก่ผู้ร้องสอดผู้เป็นสามีแต่ฝ่ายเดียวไม่เหลือตกเป็นมรดกของ ล. ผู้ตายไว้เลย ด้วยเหตุนี้ผู้ร้องสอดจึงไม่อยู่ในข่ายการนับอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 คดีของผู้ร้องสอดจึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายสวัสดิ์ วงษ์ลักษณ์ นางละออ วงษ์ลักษณ์ได้ทำการสมรสกันเมื่อปี พ.ศ. 2467 เกิดบุตรด้วยกัน 1 คนคือจำเลยเมื่อประมาณ พ.ศ. 2471 นายสวัสดิ์และนางละออ ได้รับโจทก์ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 1 ขวบ เป็นบุตรบุญธรรมเลี้ยงดูโจทก์ตลอดมาเมื่อ พ.ศ. 2490 นายสวัสดิ์และนางละออมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินโฉนดเลขที่ 1834 ตำบลคลอง 6 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีเนื้อที่ 100 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 นายสวัสดิ์และนางละออเลิกร้างกัน ได้มีการแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวคนละ 50 ไร่ นางละออตายไปเมื่อ พ.ศ. 2514 ที่ดินส่วนของนายสวัสดิ์ นายสวัสดิ์ได้ขายไปแล้วในปี พ.ศ. 2516 คงเหลือส่วนของนางละออซึ่งโจทก์ได้ครอบครองเป็นเจ้าของโดยเปิดเผยมากว่า 10 ปี จนตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้ว เป็นเนื้อที่ 25 ไร่ ส่วนที่เหลือ 25 ไร่ เป็นมรดกของนางละออที่ตกได้แก่ทายาท เมื่อเดือนกรกฎาคม 2518 จำเลยไปร้องขอรับมรดกที่ดินแปลงดังกล่าวทั้งหมด โจทก์ได้คัดค้าน จึงขอให้แสดงว่าที่ดินโฉนดดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ 25 ไร่ หรือครึ่งหนึ่งของที่ดินซึ่งนางละออถือกรรมสิทธิ์อยู่หากแบ่งไม่ได้ให้ประมูลกัน หรือขายทอดตลาดแบ่งเงินตามส่วน

จำเลยให้การว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 1834 เป็นมรดกของนางละออตกได้แก่จำเลย จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของมา 4 ปีเศษแล้ว โจทก์หรือผู้ใดไม่มีสิทธิเกี่ยวข้อง นางละออไม่ได้จดทะเบียนรับโจทก์เป็นบุตรบุญธรรม โจทก์จึงไม่ใช่บุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดก โจทก์ไม่เคยครอบครองที่พิพาท ฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องสอดว่า ผู้ร้องสอดเป็นสามีนางละออโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องสอดมีสินเดิมมาฝ่ายเดียว ที่ดิน 50 ไร่ไม่เป็นสินสมรส นางละออจึงไม่มีส่วนแบ่งสินสมรสในทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องสอดทั้งหมด เดิมผู้ร้องสอดกับนางละออได้ครอบครองมาแต่แรกไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง ผู้ร้องสอดกับนางละออไม่เคยหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา ไม่เคยรับจดทะเบียนโจทก์เป็นบุตรบุญธรรม โจทก์ไม่มีสิทธิรับมรดก เมื่อนางละออตาย ผู้ร้องสอดเป็นฝ่ายครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินฝ่ายเดียวมาเป็นเวลาเกินหนึ่งปี ทายาทอื่น ๆ รวมทั้งโจทก์และจำเลยหมดสิทธิที่จะขอแบ่งมรดกของนางละออ เพราะขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด ห้ามโจทก์และจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง

โจทก์ให้การแก้คำร้องสอดว่า นางละออเป็นฝ่ายที่มีสินเดิมมาฝ่ายเดียว ผู้ร้องสอดทิ้งร้างนางละออไปมีภรรยาใหม่ประมาณ20 ปีเศษแล้ว จนกระทั่งนางละออตาย ไม่เคยกลับมาคืนดีกันผู้ร้องสอดไม่มีสิทธิรับมรดก นางละออยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำนวน 25 ไร่โจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของโดยสงบเปิดเผย10 ปีเศษแล้ว คำร้องสอดเคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกคำร้องสอด

จำเลยให้การแก้คำร้องสอดว่า นางละออมารดาจำเลยเป็นฝ่ายที่มีสินเดิมมาฝ่ายเดียว ผู้ร้องสอดละทิ้งนางละออไป10 ปีเศษจนนางละออตาย ขาดจากเป็นสามีภรรยาแล้วผู้ร้องสอดไม่มีสิทธิรับมรดกของนางละออ นางละออยกกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว เป็นเวลาเกิน20 ปีแล้ว นอกจากนี้ผู้ร้องสอดยังได้ทำหนังสือสละมรดกส่วนของผู้ร้องสอดไว้ด้วย คำร้องสอดเคลือบคลุม ผู้ร้องสอดฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์และผู้ร้องสอด

ผู้ร้องสอดอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องสอด ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องสอดกับนางละออเป็นสามีภรรยากันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2469 ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 โดยมิได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างคนทั้งสองอยู่กินกันมาหลายปีจึงเกิดบุตรด้วยกันคนหนึ่งคือจำเลยนี้ และต่อมาได้แบ่งซื้อที่ดินนาจากเจ้าของเดิมแปลงหนึ่งเนื้อที่ 100 ไร่อยู่ตำบลคลอง 6 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีแยกโฉนดใหม่คือโฉนดเลขที่ 1834 ในนามของผู้ร้องสอดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2490 และวันเดียวกันนี้เอง ผู้ร้องสอดได้จดทะเบียนให้นางละออเข้าร่วมถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดดังกล่าวด้วยระหว่างที่ผู้ร้องสอดกับนางละอออยู่กินเป็นสามีภรรยากันนี้เอง ต่อมาราว พ.ศ. 2496 ผู้ร้องสอดได้นางลิ้มเป็นภรรยาใหม่อีกคนหนึ่งแยกบ้านกันอยู่ต่างหากคนละหลัง นางละออตายไปเมื่อ พ.ศ. 2514 หลังจากนั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2516 ผู้ร้องสอดได้แบ่งขายที่ดินโฉนดดังกล่าว 50 ไร่ ให้กับนางทองใบ มากปรี คงเหลือที่ดินอยู่อีก 50 ไร่ ซึ่งกรณีพิพาทกันในคดีนี้ และวินิจฉัยว่าผู้ร้องสอดกับนางละออสมรสกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 โดยมิได้จดทะเบียนสมรส เมื่อผู้ร้องสอดไปได้ภรรยาใหม่ ได้เลิกร้างหย่าขาดจากนางละออไปอยู่กินกับภรรยาใหม่แต่นั้นมา ทรัพย์สินได้มีการแบ่งกันไปแล้ว การสมรสระหว่างผู้ร้องสอดกับนางละออเป็นการสมรสที่สมบูรณ์มาแต่เดิม ก่อนที่จะมีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ออกใช้บังคับ แม้จะไม่ได้มีการทำหนังสือหย่ากันไว้ ก็ชอบที่จะถือได้ว่าเป็นการหย่าโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ข้อนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า หากกรณีมีข้อกล่าวอ้างถึงความสมบูรณ์ในเรื่องการสมรสหรือการหย่าขึ้นหลังจากได้มีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ใช้บังคับแล้วการสมรสหรือการหย่าจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามบทกฎหมายขณะที่ใช้อยู่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องสอดกับนางละออมิได้จดทะเบียนหย่าให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1499 ข้ออ้างการหย่าที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จึงไม่มีผลตามกฎหมาย แม้จะได้ความว่าคู่สมรสจะได้เลิกร้างแยกกันอยู่ดังจำเลยอ้าง ก็หาทำให้การเป็นสามีภรรยาของคู่สมรสขาดจากกันไม่

ส่วนปัญหาที่ว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของนางละออผู้ตายหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้แล้วว่า ที่ดินโฉนดพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องสอดกับนางละออที่ยังไม่ได้มีการแบ่งกันมาก่อนต่อมานางละออถึงแก่ความตาย ความเป็นสามีภรรยาระหว่างคนทั้งสองย่อมขาดจากกันนับแต่วันที่นางละออตาย สินสมรสจึงต้องแยกกัน การแบ่งสินสมรสสำหรับกรณีของคนทั้งสองนั้นศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะเป็นกรณีพิพาทกันขึ้นหลังจากมีพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ใช้บังคับแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงการสมรสและความสัมพันธ์ในครอบครัวอันเกิดแก่การสมรสนั้น ๆ ซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี้ ดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 4(1) ของพระราชบัญญัติดังกล่าว การแบ่งสินสมรสของคนทั้งสองจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ผู้ร้องสอดนำสืบว่า ก่อนผู้ร้องสอดแต่งงานกับนางละออ ผู้ร้องสอดเป็นฝ่ายที่มีสินเดิมมาฝ่ายเดียว ส่วนนางละออไม่มีสินเดิมมาเลย ตามข้อนำสืบของผู้ร้องสอดดังกล่าว นอกจากตัวของผู้ร้องสอดแล้วมีนางสดศรี อาจประเสริฐ เป็นพยานเบิกความต้องกันว่า ผู้ร้องสอดมีอาชีพค้าขาย ก่อนได้นางละออเป็นภรรยาผู้ร้องสอดมีเรือบรรทุกข้าว เรือชะล่า เรือมาดและเรือรับจ้างอย่างละ 1 ลำ ฉางข้าว1 หลัง ทองคำ 3 – 4 บาท กับเงินสดอีก 30,000 บาท เป็นสินเดิมส่วนนางละออระหว่างนั้นเพียงมีอาชีพหาบเร่ขายขนมอายุประมาณ25 ปี อาศัยอยู่กับนางเสียงอยู่แถวหลักสี่ ไม่มีทรัพย์สินติดตัวมาเลยนางสดศรีพยานผู้ร้องสอดแม้จะเป็นน้องสาวของผู้ร้องสอด ก็มีศักดิ์เป็นน้าของจำเลย นับได้ว่าเป็นญาติที่ใกล้ชิดของทั้งสองฝ่าย น่าเชื่อว่าพยานได้รู้และทราบถึงความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยาของคนทั้งสองเป็นอย่างดีไม่มีเหตุสงสัยกับการเบิกความของพยานเป็นอย่างอื่นฝ่ายจำเลยหาได้นำสืบในเรื่องนี้แต่ประการใดไม่ พยานผู้ร้องสอดมีน้ำหนักและนำสืบได้สมข้อกล่าวอ้างพยานจำเลยไม่อาจหักล้างได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องสอดเป็นฝ่ายที่มีสินเดิมมาฝ่ายเดียว นางละออภรรยาไม่มีสินเดิม ที่ดินตามโฉนดพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสจึงตกได้แก่ผู้ร้องสอดผู้เป็นสามีแต่ฝ่ายเดียว จึงไม่เหลือให้ตกเป็นมรดกของนางละออผู้ตายไว้เลย และด้วยเหตุนี้เองคดีของผู้ร้องสอดจึงไม่อยู่ในข่ายการนับอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 คดีของผู้ร้องสอดยังไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share