คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ในการที่จะพิจารณาว่าคดีใดต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากกระทงความผิดเป็นกระทงๆไปคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดรวม3กระทงให้ลงโทษจำคุกกระทงละ2ปีรวมเป็นจำคุก6ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218. ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ทำปลอมขึ้นซึ่งเอกสารและการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. การที่จำเลยทำคำสั่งจังหวัดตราดเรื่องแต่งตั้งข้าราชการลงในกระดาษไขโดยไม่มีอำนาจแล้วตัดเอากระดาษไขที่มีลายมือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดตราดซึ่งได้ลงนามไว้ในคำสั่งฉบับอื่นมาติดไว้ท้ายคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นและจำเลยโรเนียวคำสั่งนี้ออกมาเพื่อแสดงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นนี้เป็นคำสั่งที่แท้จริงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง และ แก้ ฟ้อง ว่า จำเลย ซึ่ง เป็น ข้าราชการ ประจำ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัด ตราด ได้ ทำ เอกสาร คำสั่ง จังหวัด ตราด อัน เป็นเอกสาร ราชการ ปลอม ขึ้น ทั้ง ฉบับ จำนวน 3 ฉบับ โดย จำเลย ทำ คำสั่งจังหวัด ตราด ปลอม ขึ้น แล้ว ตัด ลายมือชื่อ ของ ผู้ว่าราชการ จังหวัดตราด ซึ่ง เซ็น ไว้ ใน คำสั่ง ที่ แท้จริง ฉบับ อื่น นำ มา ปิด ต่อท้ายคำสั่ง จังหวัด ตราด ที่ จำเลย ทำ ปลอม ขึ้น แล้ว นำ คำสั่ง จังหวัดตราด ที่ จำเลย ปลอม ขึ้น ดังกล่าว ไป ใช้ โดย ปิด สมุด คำสั่ง และดำเนินการ โยกย้าย เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข จังหวัด ตราด ขอ ให้ ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 161, 264, 265, 268
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา161, 264, 265, 268 การ กระทำ ของ จำเลย แต่ ละ กรรม เป็น ความผิดหลาย บท ลงโทษ บทหนัก ตาม มาตรา 161 เรียง กระทง ลงโทษ จำคุก กระทง ละ2 ปี รวม จำคุก 6 ปี
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ใน การ ที่ จะ พิจารณา ว่า คดี ใด ต้องห้าม ฎีกาใน ปัญหา ข้อเท็จจริง หรือไม่ นั้น ต้อง พิจารณา จาก กระทง ความผิด เป็นกระทงๆ ไป คดี นี้ ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด รวม 3กระทง ให้ ลงโทษ จำคุก กระทง ละ 2 ปี รวม เป็น จำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยืน จำเลย จึง ต้องห้าม ฎีกา ใน ปัญหา ข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ จำเลย ฎีกา ว่า จำเลยมิได้ ทำ ปลอม ขึ้น ซึ่ง เอกสาร และ การ กระทำ ของ จำเลย ไม่ ทำ ให้ผู้อื่น ได้ รับ ความเสียหาย หรือไม่ น่า จะ เกิด ความเสียหาย แก่ผู้อื่น หรือ ประชาชน เป็น ฎีกา ใน ปัญหา ข้อเท็จจริง ซึ่ง ต้องห้ามตาม บทบัญญัติ ดังกล่าว ศาลฎีกา ไม่ รับ วินิจฉัย
ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย อีก ข้อ หนึ่ง ว่า การ กระทำ ที่ จะ ถือ ว่าเป็น ความผิด ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง จะ ต้อง เป็น การ ปลอม หรือ ตัดทอนคำสั่ง ที่ ถูกต้อง จำเลย เพียง แต่ นำ ลายเซ็น ของ ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ เซ็น ไว้ ใน คำสั่ง ฉบับอื่น มา ใส่ ลง ใน คำสั่ง ที่ จำเลยทำ ขึ้น การ กระทำ ของ จำเลย จึง ไม่ เป็น ความผิด นั้น ข้อเท็จจริงได้ ความ ว่า จำเลย ไม่ มี อำนาจ ออก คำสั่ง หรือ ลงนาม ใน คำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการ แต่ อย่างใด จึง เห็น ว่า การ ที่ จำเลย ทำ คำสั่งจังหวัด ตราด เรื่อง แต่งตั้ง ข้าราชการ ลง ใน กระดาษ ไข โดย ไม่ มีอำนาจ แล้ว ตัด เอา กระดาษไข ที่ มี ลายมือชื่อ ของ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตราด ซึ่ง ได้ ลงนาม ไว้ ใน คำสั่ง ฉบับ อื่น มา ติด ไว้ ท้ายคำสั่ง ที่ จำเลย ทำ ขึ้น และ จำเลย โรเนียว คำสั่ง นี้ ออก มา เพื่อแสดง ให้ บุคคล อื่น หลงเชื่อ ว่า คำสั่ง ที่ จำเลย ทำ ขึ้น นี้ เป็นคำสั่ง ที่ แท้จริง ถือ ได้ ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เป็น การ ทำเอกสาร ปลอม ขึ้น ทั้ง ฉบับ
พิพากษา ยืน

Share