คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกจับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ และค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยานและกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข 2 ฉบับ จำเลยแจ้งว่าเป็นสลากกินรวบซื้อมาจากโจทก์ ดังนี้ ถือว่าจำเลยกล่าวในฐานะผู้ต้องหา หรือ เสมือนผู้ต้องหา จำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจแจ้งความซึ่งรู้ว่าเป็นเท็จเกี่ยวแก่คดีอาญาแก่ร้อยตำรวจตรีกมล ซึ่งมีหน้าที่สอบสวนคดีอาญา ขณะตำรวจค้นขายบัตรรับฝากรถจักรยานและเศษกระดาษฟุลสแก๊ปมีตัวเลข ว่าเป็นเลขสลากกินรวบซื้อจากโจทก์ ความจริงไม่ใช่เป็นเลขสลากกินรวบแต่เป็นบัตรสำหรับผู้ดูภาพยนตร์มาฝากรถจักรยานไว้กับโจทก์ ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๗๒, ๑๗๓, ๑๗๔
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยถูกจับกุมว่ากระทำผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ และตกเป็นผู้ต้องหา จำเลยกล่าวในฐานะเป็นผู้ต้องหา แม้ข้อความนั้นจะเป็นเท็จ ก็ไม่ผิดตามฟ้อง พิพากษายืนในผลยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อวันที่โจทก์กล่าวหา ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกได้จับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนักสลากกินรวบ ร้อยตำรวจตรีกมลตรวจค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยาน และกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข ๒ ฉบับ จำเลยได้แจ้งว่าเป็นสลากกินรวบทั้ง ๒ ฉบับและซื้อจากโจทก์ ดังนี้ การที่จำเลยแจ้งแก่ร้อยตรีกมล จึงถือได้ว่าจำเลยได้กล่าวในฐานะเป็นผู้ต้องหา หรือ เสมือนผู้ต้องหา ว่าเล่นการพนันสลากกินรวบ และจำเลยก็น่าจะเข้าใจเช่นนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นเรื่องแจ้งความเท็จ แต่เป็นการกล่าวแก้ในข้อที่ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหา จำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่ ฎีกาข้ออื่นก็ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน พิพากษายืน

Share