คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีอาญาชั้นขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ โจทก์นำสืบเอกสารซึ่งโจทก์มิได้ถามพยานผู้ร้องผู้ลงชื่อในเอกสารนั้นไว้เมื่อผู้ร้องนำสืบพยานผู้นั้นก่อน ผู้ร้องไม่คัดค้านการนำสืบเอกสารนี้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ซึ่งใช้ในคดีอาญาด้วยโดยอนุโลม จึงรับฟังเอกสารนี้ได้ จำเลยไม่ขอสำเนาเอกสารโจทก์ก็ไม่ต้องทำสำเนาให้จำเลย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง ซึ่งศาลสั่งริบ ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “พฤติการณ์ที่ปรากฏจากพยานหลักฐานของผู้ร้องและพยานหลักฐานโจทก์ ยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ที่ผู้ร้องฎีกาอ้างว่าโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารหมาย จ.2ให้แก่ผู้ร้องก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน และมิได้หมาย จ.2 มิได้นั้นเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องมิได้แสดงความประสงค์ว่าต้องการสำเนาเอกสารหมาย จ.2และศาลได้สั่งให้โจทก์ส่งสำเนาให้ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 240 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องส่งสำเนาเอกสารหมาย จ.2 แก่ผู้ร้อง และเมื่อโจทก์นำสืบเอกสารหมาย จ.2 โดยมิได้ถามค้านพยานผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ลงชื่อในเอกสารหมาย จ.2 ไว้ก่อน ผู้ร้องก็มิได้คัดค้านไว้ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสอง ซึ่งนำมาใช้ในการพิจารณาคดีอาญาโดยอนุโลม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ผู้ร้องเพื่อยกความข้อนี้ขึ้นคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ ศาลจึงหาต้องห้ามที่จะรับฟังเอกสารหมาย จ.2 ไม่”

พิพากษายืน

Share