คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตาม พระราชบัญญัติวว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คถ้ายังไม่ยื่นเช็คต่อธนาคาร หรือธนาคารยังไม่ปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็ยังไม่เกิดเป็นความผิด การนับอายุความ นับเมื่อความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว
ถ้านับแต่วันที่ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจนถึงวันที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานยังไม่เกิน 3 เดือน คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

อัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คให้แก่นายเงาะ ๆ ไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะจำเลยมีเงินในธนาคารไม่พอจ่ายโดยจำเลยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยปฏิเสธ

นายเงาะผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

เมื่อสืบผู้เสียหายแล้ว ศาลสั่งงดสืบพยานและวินิจฉัยว่าผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดในการออกเช็คซึ่งถึงกำหนดจ่ายคือ วันที่ 7 ธ.ค. 2500 แล้ว จนถึงเดือนกรกฎาคม 2501 ผู้เสียหายจึงไปร้องทุกข์ คดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

อัยการและโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การทำผิดตาม พระราชบัญญัตินี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ทรงเช็คนำเช็คไปขึ้น ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จึงเป็นความผิดคดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเพราะนับแต่วันนั้นจนถึงวันแจ้งความยังไม่เกิน 3 เดือน พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 ระบุไว้ชัดว่า ถ้าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจึงจะเป็นความผิด ฉะนั้น ถ้ายังไม่ยื่นเช็คต่อธนาคาร ธนาคารยังไม่ปฏิเสธการจ่ายเงินก็ยังไม่เกิดเป็นความผิด จะมีการนับอายุความได้ในเมื่อเกิดความผิดขึ้นแล้ว คดีนี้นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจนถึงวันที่โจทก์ร่วมไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานยังไม่เกิน 3 เดือน คดียังไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share