คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+เรื่องราวกล่าวโทษเขา+ปลัดอำเภอ แต่ปลัดอำเภอไม่ใช่เจ้าพนักงานสอบสวนจึงใช้ให้จำเลยไป+ต่อตำรวจดั่งนี้ ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ยื่นเรื่องราวกล่าวโทษเขาต่อตำรวจ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใส่เท็จทำพะยานขึ้นเพื่อจะให้เห็นว่านายสิงห์ คำลอยทุจจริตต่อหน้าที่ขู่เข็ญเอาเงินราษฎร แล้วจำเลยเอาข้อความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปร้องเรีบนโดยยื่นหนังสือต่อ ส.ต.ท.ศรี ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีตำรวจสุวรรณภูมิว่า นายสิงห์ คำลอยขู่เข็ญเอาเงินราษฎร ขอให้ลงโทษ.
จำเลยปฏิเสธ ต่อสู้ว่าข้อความตามหนังสือที่ยื่นต่อเจ้าพนักงานเป็นความจริง หาเป็นเท็จไม่ ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริง จำเลยผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘,๑๕๘,๑๕๙ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ลงโทษตามมาตรา ๑๕๘ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๗ (ฉะบับที่ ๓) มาตรา ๔ อันเป็นบทหนัก
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาได้ความว่า จำเลยทำหนังสือยื่นต่อกรมการอำเภอสุวรรณภูมิ กล่าวหาว่านายสิงห์คำลอยกำนันทุจจริตต่อหน้าที่ขู่เข็ญเอาเงินราษฎร โดยหาว่าราษฎรผู้มีนามท้ายคำร้องตัดไม้พะยงไม่รับอนุญาต นายอำเภอจึงส่งคำร้องให้พนักงานสอบสวนจัดการในเมื่อเจ้าทุกข์มอบคดีให้จัดการ ปลัดอำเภอสอบถามแล้วบันทึกไว้ว่าเต็มใจมอบคดีให้เจ้าพนักงานจัดการกรมการอำเภอจึงให้จำเลยนำคำร้องไปให้เจ้าพนักงานตำรวจ ในวันนั้นจำเลยนำคำร้องไปให้ ส.ต.ท.ศรี สถานีตำรวจสุวรรณภูมิ เห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยยื่นคำร้องกล่าวโทษนายสิงห์ คำลอยต่อ ส.ต.ท.ศรี แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่า จำเลยยื่นคำร้องเรียนกล่าวโทษต่อกรมการอำเภอสุวรรณภูมิ เหตุที่จำเลยนำคำร้องไปส่งตำรวจก็โดยคำสั่งหรืออำเภอใช้ หาใช่จำเลยยื่นคำร้องเรียนนั้นแก่ ส.ต.ท.ศรีเองไม่ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒ แม้พิจารณาข้อเท็จจริงก็ยังไม่พอจะลงโทษจำเลยได้ รูปเรื่องอาจเป็นจริงดั่งข้อต่อสุ้ของจำเลย จึงพิพากษากลับศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้จะยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยเหตุที่ว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องยังไม่ได้ เพราะคณะกรมการอำเภอสุวรรณภูมิก็ดี หรือนายสิบตำรวจโทศรีก็ดี ก็เป็นเจ้าพนักงานด้วยกันทั้งนั้น โดยเหตุที่ตำรวจมีหน้าที่ทำการสอบสวน เมื่อทางอำเภอได้รับแล้ว เห็นเป็นคดีอาญาจึงให้จำเลยนำคำร้องนั้นไปยื่นทางตำรวจ จำเลยก็รับและนำไปยื่น เมื่อเป็นดั่งนี้ จึงถือได้ว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องกล่าวโทษนายสิงห์ต่อนายสิบตำรวจโทศรีด้วย.
ส่วนในข้อเท็จจริงเห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ว่าพะยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดดั่งโจทก์หา เรื่องอาจเป็นจริงดั่งจำเลยกล่าวก็ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share