แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สิทธิแก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนที่ยังไม่พอใจในคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ฟ้องคดีต่อศาล โดยไม่ได้ให้สิทธิแก่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์โต้แย้งหรือไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี จำเลยทั้งสามฎีกาในทำนองไม่เห็นด้วยกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยให้จ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินในส่วนที่คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นฯ หักเอาไว้อันเนื่องจากมีความเห็นว่าที่ดินของโจทก์ที่เหลือจากการเวนคืนมีราคาสูงขึ้นแก่โจทก์ ซึ่งเท่ากับเป็นการฎีกาโต้แย้งเพื่อที่จะไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของตนเองหรือฝ่ายตนเอง จำเลยทั้งสามหามีสิทธิฎีกาเช่นนี้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 92,100,503 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 8.5 ต่อปี จากต้นเงิน 78,630,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 14,640,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 13 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2534 จนถึงวันฟ้อง และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 8.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสามใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 50,000 บาท
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์ถึงแก่กรรม นายศักดิ์ชายและนางศุภกัญญาทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 24,120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินแต่ไม่เกินอัตราร้อยละ 13 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2534 ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2535 และไม่เกินอัตราร้อยละ 8.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2535 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากโจทก์รับเงินจำนวน 5,080,000 บาท ไปจากฝ่ายจำเลยแล้วให้นำมาหักให้ด้วยในวันที่ที่รับเงินไป กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความทั้งสองศาลให้ 70,000 บาท
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า ที่ดินของโจทก์ที่เหลือจากการเวนคืนมีราคาสูงขึ้นเพราะการเวนคืนจึงต้องนำค่าความเจริญมาหักออกด้วย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 21 วรรคสองนั้น ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้สิทธิแก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนที่ยังไม่พอใจในคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ฟ้องคดีต่อศาล โดยไม่ได้ให้สิทธิแก่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์โต้แย้งหรือไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสามเป็นฎีกาในทำนองไม่เห็นด้วยกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยให้จ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินในส่วนที่คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นฯ หักเอาไว้อันเนื่องจากมีความเห็นว่าที่ดินของโจทก์ที่เหลือจากการเวนคืนมีราคาสูงขึ้นจำนวน 5,080,000 บาท แก่โจทก์ ซึ่งเท่ากับเป็นการฎีกาโต้แย้งเพื่อที่จะไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของตนเองหรือฝ่ายตนเอง จำเลยทั้งสามหามีสิทธิฎีกาเช่นนี้ไม่ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสาม
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 14,560,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนด ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาให้เป็นพับ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.