คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความต่างท้ากันว่า หากเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคม ฯ ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีสิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้คดี โดยถือเอาหลักฐานที่มีอยู่ในนิคมเป็นใหญ่ และไม่ติดใจสู้ในประเด็นข้ออื่นอีกต่อไป ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่ได้อ้างหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมสร้างตนเอง และเจ้าหน้าที่มาเป็นพยาน แต่ฝ่ายจำเลยอ้างเจ้าหน้าที่นิคมและเอกสารหลักฐานจากนิคมเป็นเป็นพยาน เจ้าหน้าที่นิคมเบิกความประกอบเอกสารดังกล่าวและยืนยันว่าทางนิคมได้จัดสรรที่ดินให้จำเลยได้เข้าครอบครองทำกินตลอดมา จึงฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่นิคมฯ ได้ชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตรงตามคำท้าระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดิน ๑๗ ไร่ จำเลยกับพวกหยอดเมล็ดข้าวโพดลงในที่ดินของโจทก์ โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารไม่ให้มาเกี่ยวข้องและใช้ค่าขาดประโยชน์ ฯลฯ
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินจัดสรรของนิคมสร้างตนเองลพบุรีฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ก่อนเริ่มสืบพยาน คู่ความแถลงรับกันว่า ที่พิพาทเป็นที่ในบริเวณจัดสรรของนิคมสร้างตนเอง และผู้ที่จะเข้าครอบครองได้ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของนิคมและคู่ความท้ากันว่า หากเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีสิทธิครอบครองโดยชอบแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้คดีโดยถือเอาหลักฐานที่มีอยู่ในนิคมสร้างตนเองเป็นใหญ่ และไม่ติดใจสู้ในประเด็นข้ออื่นอีกต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์หาได้อ้างหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมสร้างตนเอง และเจ้าหน้าที่นิคมมาเป็นพยานไม่ ส่วนจำเลยได้อ้างเจ้าหน้าที่นิคมและเอกสารหลักฐานอันมีอยู่ที่นิคมมาเป็นพยาน และเจ้าหน้าที่ของนิคมได้เบิกความประกอบเอกสารยืนยันว่า ทางนิคมได้จัดสรรที่ดินให้จำเลยได้เข้าครอบครองทำกินตลอดมา ฉะนั้น ตามเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคม และตามคำเบิกความของเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองจึงฟังได้ว่า เจ้าหน้าที่นิคมได้ชี้ขาดตามหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย จำเลยได้เข้าครอบครองตรงตามคำท้าระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก และไม่ตรงตามคำท้า ซึ่งให้ถือเอาหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมเป็นใหญ่ ในคำท้ามิได้ระบุว่าจำเลยจะต้องแสดงว่าตนได้รับใบครอบครองสิทธิในที่พิพาท ตามพยานหลักฐานฟังได้ว่า เจ้าหน้าที่นิคมชี้ขาดตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ที่นิคมว่า จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองโดยชอบตามคำท้า โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
พิพากษายืน.

Share