แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยทำสมุดทะเบียนหุ้นโดยโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ๖๐๐ หุ้น และทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นไปยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนฯ ให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลยที่ ๑ จำนวน ๖๐๐ หุ้น ให้จำเลยจัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นไปแสดงต่อนายทะเบียนให้ถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่จำเลย
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ว่า เนื่องจากผลของคำสั่งอนุญาตให้จำเลยได้รับทุเลาการบังคัลคดี โจทก์ไม่สามารถใช้สิทธิในการลงมติในสิทธิตามหุ้นส่วนที่มีอยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์ในที่ประชุมใหญ่ของบริษัทพรหมพิรามยานยนต์ จำกัด จำเลยที่ ๑ ได้ และจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ได้ร่วมสมคบกันใช้อำนาจบริหารทำความเสียหายแก่บริษัทจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ในฐานะกรรมการของบริษัทจำเลยที่ ๑ ลงชื่อและประทับตราของบริษัทในหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกถอดถอนรถยนต์โดยสารของโจทก์และพวกรวม ๖ คัน ออกจากการวิ่งรับส่งคนโดยสารสายพิษณุโลก – พิชัย – อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นเส้นทางสัมปทานของบริษัทจำเลยที่ ๑ เพื่อสร้างความเสียหายให้โจทก์ เพราะโจทก์ไม่สามารถที่จะใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นเสียงข้างมากในบริษัทจำเลยที่ ๑ รักษาประโยชน์หรือคุ้มครองสิทธิของโจทก์ได้เพื่อประโยชน์ของโจทก์ จึงขอให้ศาลกำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โดยขอให้กำหนดให้ผู้มีอำนาจลงชื่อทำการแทนบริษัทจำเลยที่ ๑ คือโจทก์และจำเลยที่ ๒ หรือโจทก์และจำเลยที่ ๓ ลงชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทจำเลยที่ ๑ จึงกระทำการแทนบริษัทจำเลยที่ ๑ ได้ ห้ามจำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ ลงลายมือชื่อร่วมกัน
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า การคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอก็เพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษา ตามคำฟ้องของโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์ถือหุ้นจำนวน ๖๐๐ หุ้น ของบริษัทจำเลยที่ ๑ ส่วนเหตุที่โจทก์อ้างในคำร้องไม่เกี่ยวกับทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันโดยตรง จึงเห็นว่าโจทก์ไม่อาจขอคุ้มครองไว้ในระหว่างพิจารณาได้ ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า การคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ซึ่งในคดีนี้โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ๖๐๐ หุ้น ของจำเลยที่ ๑ และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวให้ถูกต้อง ยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ส่วนเรื่องที่โจทก์ขอให้คุ้มครองประโยชน์กลับเป็นการขอให้กำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยที่ ๑ ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่มิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษา โจทก์จึงไม่อาจที่จะขอให้คุ้มครองดังกล่าวได้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.