คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยทำสมุดทะเบียนหุ้นโดยโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น 600 หุ้น และทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นไปยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลยที่ 1 จำนวน 600 หุ้น ให้จำเลยจัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นไปแสดงต่อนายทะเบียนให้ถูกต้องหากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่จำเลย โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ ขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ว่า เนื่องจากผลของคำสั่งอนุญาตให้จำเลยได้รับทุเลาการบังคับคดี โจทก์ไม่สามารถใช้สิทธิในการลงมติในสิทธิตามหุ้นส่วนที่มีอยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์ในที่ประชุมใหญ่ของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ และจำเลยที่ 2และที่ 3 ได้ร่วมสมคบกันใช้อำนาจบริหารทำความเสียหายแก่บริษัทจำเลยที่ 1 จึงขอให้ศาลกำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โดยให้โจทก์มีอำนาจลงชื่อทำการแทนจำเลยที่ 1 หรือร่วมกับจำเลยที่ 2 หรือที่ 3ลงชื่อและประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 กระทำการแทนจำเลยที่ 1 ได้ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์ และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ซึ่งในคดีนี้โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้ถือหุ้น 600 หุ้น ของจำเลยที่ 1 และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวให้ถูกต้องยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทส่วนเรื่องที่โจทก์ขอให้คุ้มครองประโยชน์กลับเป็นการขอให้กำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยที่ 1 ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่มิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษา โจทก์จึงไม่อาจที่จะขอให้คุ้มครองดังกล่าวได้คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share