แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยตำแหน่งนิติกร 4 แผนกการตลาดเมื่อปรากฏว่าหัวหน้าแผนกการตลาดเป็นพนักงานระดับ 5 ส่วนหัวหน้าคณะที่ปรึกษาเป็นพนักงานระดับ 6 คณะที่ปรึกษาเป็น ผู้ให้คำปรึกษาแก่จำเลยในเมื่อมีปัญหาจากทุกแผนก รวมทั้ง แผนกการตลาดนิติกร 4 ของคณะที่ปรึกษาจึงมีความสำคัญยิ่งกว่านิติกร 4 แผนกการตลาดการที่จำเลยออกคำสั่งแต่งตั้งโจทก์เป็นนิติกร4คณะที่ปรึกษาจึงเป็นการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ให้สูงขึ้นถือไม่ได้ว่าเป็นการ โยกย้ายหน้าที่ตามความหมายของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นกรรมการบริหารสหภาพแรงงานของจำเลย สหภาพแรงงานฯได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อจำเลย ข้อเรียกร้องอยู่ระหว่างเจรจาจำเลยได้ออกคำสั่งโยกย้ายหน้าที่การงานของโจทก์ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 31 ขอให้บังคับจำเลยยกเลิกคำสั่งดังกล่าวให้โจทก์กลับไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานเดิม
จำเลยให้การว่า ขณะย้ายโจทก์ไม่มีข้อเรียกร้องอยู่ในระหว่างเจรจา เป็นการโยกย้ายประจำปีและเป็นตำแหน่งสูงกว่าเดิม
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า สหภาพแรงงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งโจทก์เป็นรองประธานกรรมการ ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อจำเลย ระหว่างเจรจาจำเลยได้มีคำสั่งแต่งตั้งโจทก์เป็นนิติกร 4 คณะที่ปรึกษา เมื่อปรากฏว่าหัวหน้าแผนกการตลาดเป็นพนักงานระดับ 5 ส่วนหัวหน้าคณะที่ปรึกษาเป็นพนักงานระดับ 6 คณะที่ปรึกษาเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่จำเลยในเมื่อมีปัญหาจากทุกแผนก รวมทั้งแผนกการตลาดตำแหน่งนิติกร 4 ของคณะที่ปรึกษามีความสำคัญยิ่งกว่านิติกร 4 แผนกการตลาดการที่จำเลยมีคำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ให้สูงขึ้นการที่โจทก์เป็นพนักงานอาวุโสในแผนกการตลาด ถ้าหัวหน้าแผนกไม่อยู่โจทก์จะได้ทำการแทน กับการเป็นนิติกรของคณะที่ปรึกษางานของโจทก์ต้องมีนิติกร 4 ลงชื่อกำกับอีก นั้น เป็นเรื่องการปฏิบัติงานในหน่วยงานที่มีความสำคัญยิ่งขึ้น ทั้งการที่โจทก์ไม่พอใจตำแหน่งใหม่มิใช่สิ่งแสดงว่าตำแหน่งเก่าสูงกว่าตำแหน่งใหม่ การที่มีคำสั่งแต่งตั้งโจทก์ไม่ถือว่าเป็นการโยกย้ายหน้าที่ตามความหมายในบทบัญญัติมาตรา 31
พิพากษายืน