แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สิทธิการเช่าตึกแถวระหว่างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับจำเลยเป็นสิทธิเฉพาะตัว และไม่มีข้อตกลงให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าได้จึงเป็นทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 285(4) โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้ เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าตึกแถวแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินราคาไว้ จึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาอยู่ในตัวแต่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามกฎหมายโจทก์ผู้นำยึดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่กำหนดให้จำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าตึกแถวซึ่งจำเลยเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า ไม่อาจอนุญาตให้นำสิทธิการเช่าตึกแถวที่ยึดออกขายทอดตลาด เพราะมีนโยบายที่จะนำออกจัดหาประโยชน์ด้วยตนเอง เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รายงานศาลให้แจ้งโจทก์ถอนการยึดสิทธิการเช่าตึกแถวและเสียค่าธรรมเนียมการยึดแล้วไม่มีการขายร้อยละ 3.5 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบตามรายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์ยื่นคำแถลงว่า หนังสือของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่มีถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าไม่อาจอนุญาตให้นำสิทธิการเช่าตึกแถวที่โจทก์นำยึดไว้ขายทอดตลาดได้นั้น ไม่ใช่เหตุที่จะต้องงดการบังคับคดี การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ถอนการการบังคับคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้สั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์จัดการถอนการบังคับคดีตามหนังสือของเจ้าพนักงานบังคับคดีให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วให้เจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาจัดการให้ตามขอต่อไป
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สิทธิการเช่าตึกแถวที่โจทก์นำยึดเพื่อขายทอดตลาด เป็นสิทธิที่จำเลยได้มาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ให้เช่าเมื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่อนุญาตให้นำสิทธิการเช่าตึกแถวออกขายทอดตลาดเพราะประสงค์จะนำมาหาประโยชน์ด้วยตนเอง ผลจึงเป็นว่าสิทธิการเช่าระหว่างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับจำเลยเป็นสิทธิเฉพาะตัวและไม่มีข้อตกลงให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าได้ สิทธิการเช่ารายนี้จึงเป็นทรัพย์สินที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย จึงไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 285(4)โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้
ที่โจทก์ฎีกาว่า หากศาลฎีกาเห็นว่า สิทธิการเช่าตึกแถวไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีต้องถือว่าทรัพย์สินรายนี้ไม่มีราคาต่อไป โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นเงิน 3,500 บาท นั้นเห็นว่า เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าตึกแถวแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินราคาไว้ 100,000 บาท จึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาอยู่ในตัว แต่ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามกฎหมาย โจทก์ผู้นำยึดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น