คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การส่งหมายให้แก่คู่ความโดยวิธีอื่นแทนการส่งหมายโดยวิธีธรรมดาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79 วรรคหนึ่ง นั้น ต้องเป็นกรณีที่ไม่สามารถส่งหมายนัดโดยวิธีธรรมดาดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 74 ถึงมาตรา 78 แล้ว การที่ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบโดยปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลโดยมิได้ส่งหมายนัดให้จำเลยทั้งสามทราบโดยวิธีธรรมดาก่อนจึงเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนของกฎหมาย ขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 79 ทำให้การแจ้งวันนัดดังกล่าวไม่ชอบ อันมีผลทำให้กระบวนพิจารณาต่าง ๆ ที่กระทำภายหลังจากนั้นไม่ชอบไปด้วย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์และจำเลยที่ 2 กับที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 169,917.75 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การต่อสู้คดีและฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้รับรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนในสภาพเรียบร้อย โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการนำรถยนต์กลับไปไม่เกิน 2,000 บาท โจทก์ขายทอดตลาดรถยนต์ที่เช่าซื้อได้เงินจำนวน 145,000 บาท เมื่อรวมกับเงินดาวน์และค่าเช่าซื้อที่จำเลยที่ 1 ได้ชำระให้แก่โจทก์แล้วยังมีเงินส่วนที่เหลือที่โจทก์จะต้องคืนให้แก่จำเลยที่ 1 จำนวน 29,425 บาท ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ชำระเงินจำนวน 29,425 บาท แก่จำเลยทั้งสาม โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จนเสร็จและสืบพยานจำเลยทั้งสามได้บางส่วน ในวันนัดสืบพยานจำเลยทั้งสามในนัดต่อไป ฝ่ายจำเลยทั้งสามไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสามที่เหลือ และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ธันวาคม 2542 โดยแจ้งวันนัดให้แก่จำเลยทั้งสามทราบโดยวิธีปิดประกาศไว้ที่หน้าศาล ต่อมาวันที่ 30 ธันวาคม 2542 คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงงดการอ่านคำพิพากษาโดยถือว่าได้อ่านคำพิพากษาโดยชอบแล้ว
วันที่ 28 มีนาคม 2543 ทนายจำเลยทั้งสามยื่นคำร้องว่า การที่ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบโดยวิธีปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลเป็นการส่งหมายโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบและอ่านคำพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ากระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ผิดระเบียบ ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้จำเลยทั้งสามยื่นอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสามฟัง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบโดยปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลเป็นการส่งหมายโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้ฝ่ายจำเลยทั้งสามทราบ ศาลชั้นต้นชอบที่จะส่งหมายนัดไปยังภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของจำเลยทั้งสามหรือของทนายความของจำเลยทั้งสาม ซึ่งถือว่าเป็นการส่งโดยวิธีธรรมดาก่อนตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74 บัญญัติไว้ การที่ศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบโดยปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลโดยมิได้ส่งหมายนัดดังกล่าวให้จำเลยทั้งสามทราบโดยวิธีธรรมดาก่อนจึงเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนของกฎหมาย ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ทำให้การประกาศแจ้งวันนัดดังกล่าวไม่ชอบ อันมีผลทำให้กระบวนพิจารณาต่าง ๆ ที่กระทำภายหลังจากนั้นไม่ชอบไปด้วย กรณีถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ธันวาคม 2542 แล้ว เช่นนี้ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะมีคำพิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบ แล้วอ่านคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามฟังใหม่ต่อไปตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 บัญญัติให้อำนาจไว้ และระยะเวลาอุทธรณ์จะเริ่มนับต่อเมื่อศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังโดยชอบเท่านั้น เมื่อการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นไปโดยไม่ชอบ ระยะเวลายื่นอุทธรณ์จึงยังไม่เริ่มนับ ยังไม่มีกรณีที่ศาลอุทธรณ์จะขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทั้งสามยื่นอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสามฟังเป็นการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยทั้งสามในขณะที่ระยะเวลาอุทธรณ์ยังไม่เริ่มนับ จึงไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามทราบโดยวิธีปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลและการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการอ่านคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามฟังใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ.

Share