แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางเป็นของจำเลยที่ 1 ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ยังคงครอบครองมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางอยู่จำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครอง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต
ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางกำลังกระทำความผิดตามฟ้องอยู่ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจะเข้าจับกุมจำเลยที่ 2 ซึ่งทราบว่ากล่องกระดาษที่จำเลยที่ 1 หิ้วมามียาเสพติดให้โทษของกลางบรรจุอยู่จึงช่วยเหลือจำเลยที่ 1 โดยช่วยยกขยับแท็งก์น้ำเพื่อให้จำเลยที่ 1 เอากล่องกระดาษดังกล่าวใส่ในช่องใต้แท็งก์น้ำ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมียาเสพติดมอร์ฟีนและโคเดอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๗, ๖๙ ให้จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ ประกอบด้วยมาตรา ๕๓ กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๒๕ ปี
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ด้วย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางเป็นของจำเลยที่ ๑ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ยังคงครอบครองมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางอยู่จำเลยที่ ๒ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครอง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ ร่วมกับจำเลยที่ ๑ มีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครอง จำเลยที่ ๒ จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ผู้เป็นเจ้าของมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางกำลังกระทำความผิดตามฟ้องอยู่ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจะเข้าจับกุม จำเลยที่ ๒ ซึ่งทราบว่ากล่องกระดาษที่จำเลยที่ ๑หิ้วมามียาเสพติดให้โทษของกลางบรรจุอยู่จึงช่วยเหลือจำเลยที่ ๑ โดยช่วยยกขยับแท็งก์น้ำเพื่อให้จำเลยที่ ๑ เอากล่องกระดาษดังกล่าวใส่ในช่องใต้แท็งก์น้ำ การกระทำของจำเลยที่ ๒ จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ ๑ กระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ ๒ จึงมีความผิดในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๗ และ ๖๙ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๖ จำคุก ๑๒ ปี คำรับสารภาพชั้นจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ ๒ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ ปี