คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายโจทก์ไม่มีอำนาจรับเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยนอกศาลแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้รับเงินนั้นแทนการที่จำเลยชำระหนี้ให้แก่ทนายโจทก์เท่ากับเป็นการชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันในการกระทำดังกล่าว การชำระหนี้ของจำเลยย่อมไม่ผูกพันโจทก์ โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีต่อไปได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งห้า จำเลยทั้งสองไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ ๒ เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ ๒ ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คมอบให้แก่นายสมนึกทนายโจทก์ไป และทนายโจทก์ได้รับเงินตามเช็คไปแล้ว ขอให้ระงับการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดไว้ก่อน ศาลชั้นต้นอนุญาต แต่โจทก์แถลงว่ายังมิได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลย และไม่เคยมอบอำนาจให้นายสมนึกทนายโจทก์ไปรับเงินจากจำเลย นายสมนึกไม่เคยนำเงินจากจำเลยมามอบให้โจทก์เลย ศาลชั้นต้นหมายเรียกนายสมนึกมาสอบถาม นายสมนึกมาศาลแถลงว่าได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยที่ ๒ มาแล้ว แต่ยังมิได้นำเงินไปชำระให้โจทก์ โจทก์แถลงยืนยันว่าไม่เคยมอบอำนาจให้นายสมนึกไปรับเงินจากจำเลย นายสมนึกรับว่าจะนำเงินมาชำระให้โจทก์ ครั้นถึงวันนัดนายสมนึกมาศาลแถลงว่ายังหาเงินมาชำระให้โจทก์ไม่ได้ ขอขยายเวลาไป โจทก์ไม่ตกลง ขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดีต่อไป ทนายจำเลยที่ ๒ แถลงว่า เนื่องจากจำเลยที่ ๒ ได้ชำระหนี้ให้แก่นายสมนึกแล้ว โดยมีหลักฐานใบมอบฉันทะจากโจทก์ถูกต้อง แต่หนังสือมอบฉันทะได้สูญหายไปขอคัดค้านการที่โจทก์ขอให้บังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเนื่องจากโจทก์ไม่ยอมรับข้อเสนอของนายสมนึก จึงให้มีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ทนายโจทก์ได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ ๒ นอกศาลโดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายโจทก์รับเงินนั้นแทน ย่อมไม่ผูกพันโจทก์เพราะทนายโจทก์ในฐานะทนายความไม่มีอำนาจรับเงินนอกศาลแทนโจทก์ซึ่งเป็นตัวความ การที่จำเลยที่ ๒ ชำระหนี้ให้แก่ทนายโจทก์เท่ากับเป็นการชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันในการกระทำดังกล่าวของทนายโจทก์ การชำระหนี้ของจำเลยที่ ๒ จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๑๕ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ ได้ชำระหนี้แก่โจทก์ตามกฎหมายแล้ว โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีกับจำเลยที่ ๒ ต่อไปได้
พิพากษายืน.

Share