แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่จำเลยได้ แต่งตั้ง ทนายความ แต่ ทนายความของจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์ เป็นความบกพร่อง ของจำเลยเองที่ไม่หาผู้ที่รับมอบหมายที่เชื่อถือ ได้ และไม่สนใจ ติดตามเรื่องที่ตน ถูก ฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่เหตุสมควรที่จะขอให้ พิจารณาใหม่ ตามป.วิ.พ. มาตรา 209.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตกลงซื้ออ้อยของโจทก์ที่ปลูกไว้ 2 แปลงรวมเนื้อที่ 20 ไร่ เป็นเงิน 59,500 บาท และจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไปบางส่วนแล้วคงเหลือเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์อีก28,500 บาท โจทก์ติดตามทวงถามตลอดมาจนกระทั่งวันที่ 26 พฤษภาคม2530 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ขอผ่อนชำระแก่โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2530 แต่จำเลยก็มิได้ชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ขอบังคับจำเลยให้ชำระเงินจำนวน29,212.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 29,212.50 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่า จำเลยได้มอบเรื่องให้ผู้แจ้งว่าเป็นทนายความ และมอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้นั้นแล้วจำเลยมาทราบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวไม่จัดการให้ จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เหตุขาดนัดเกิดแต่ความผิดและความบกพร่องของจำเลยเอง ไม่เป็นเหตุสมควรที่จะขอให้พิจารณาใหม่ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายพอสรุปใจความได้ว่า ผู้ที่แจ้งว่าเป็นทนายความรับจะจัดการให้จำเลย โดยจำเลยลงชื่อในใบแต่งทนายความและมอบเงินค่าใช้จ่ายให้ไว้แต่บุคคลผู้นั้นกลับไม่จัดการให้ การที่จำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การ และไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์ จึงไม่ใช่ความผิดของจำเลยนั้น เห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวเกิดจากความบกพร่องของจำเลยเองที่ไม่หาผู้ที่รับมอบหมายที่เชื่อถือได้ และไม่สนใจติดตามเรื่องที่ตนถูกฟ้อง จึงไม่ใช่เหตุสมควรที่จะขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ได้…”
พิพากษายืน.