คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระหว่างที่ผู้เสียหายไปเที่ยวงานมหกรรมช้าง จำเลยที่ 2 ซึ่งผู้เสียหายไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้เข้ามาทักทายและไปเที่ยวงานด้วยกัน จนกระทั่งตกดึกผู้เสียหายจะกลับบ้านก็ขอให้จำเลยที่ 2 กับพวกไปส่ง จำเลยที่ 2ทำรีรอว่าจะรอเพื่อนก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากบริเวณงานก็เห็นจำเลยที่ 2 กับพวกเดินนำหน้าไปก่อน ครั้นถึงที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็ถูกชายวัยรุ่นซึ่งมีจำเลยที่ 1 รวมอยู่ด้วยฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างทาง ส่วนจำเลยที่ 2 ถอดกางเกงรออยู่ ผู้เสียหายขอร้องว่าอย่าทำหนูเลย จำเลยที่ 2 ตอบว่าอีกคนหนึ่ง แต่มีคนเดินมาคนร้ายจึงอุ้มผู้เสียหายไปที่อื่นแล้วข่มขืนกระทำชำเราจนผู้เสียหายสลบไป ตามพฤติการณ์ส่อว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับพวกเพื่อกระทำความผิดมาแต่ต้น
การร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงนั้นจะต้องก่อนหลังกันอยู่ พวกของจำเลยบางคนได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว บางคนกำลังข่มขืนกระทำชำเราอยู่ จำเลยที่ 2 ซึ่งได้ถอดกางเกงรออยู่พร้อมที่จะข่มขืนกระทำชำเราเป็นคนต่อไป แม้จะยังไม่ทันได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เพราะมีผู้อื่นมายังที่เกิดเหตุจึงหลบหนีไปเสียก่อน ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่หลบหนีอีก ๒ คน ได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและใช้มีดปลายแหลมจี้คอนางสาวบำรุง ทรงสุข ผู้เสียหายแล้วได้ผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ทุกคนอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคสอง, ๘๓
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่าเพียงแต่เห็นเหตุการณ์แล้วเข้าไปแก้ผ้ารอจะข่มขืนบ้างแต่เผชิญมีคนเดินมาจึงหนีไป ไม่ได้ร่วมข่มขืนด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖, ๘๓ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนวินิจฉัยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไปเที่ยวงานมหกรรมช้าง พบจำเลยที่ ๒ กับพวกหน้าบริเวณงาน ผู้เสียหายไม่เคยรู้จักจำเลยที่ ๒ กับพวกมาก่อน จำเลยที่ ๒ ได้เข้ามาทักทายและเข้าไปเที่ยวงานด้วยกันจนกระทั่งตกดึกผู้เสียหายจะกลับบ้านก็ขอให้จำเลยที่ ๒กับพวกไปส่ง จำเลยที่ ๒ ทำรีรอว่าจะรอเพื่อนก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากบริเวณงาน ก็เห็นจำเลยที่ ๒ กับพวกเดินนำหน้าไปก่อน ครั้นถึงที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็ถูกชายวัยรุ่นซึ่งมีจำเลยที่ ๑ รวมอยู่ด้วยฉุดไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างทาง ส่วนจำเลยที่ ๒ ถอดกางเกงรออยู่ ผู้เสียหายพูดขอร้องว่าอย่าทำหนูเลย จำเลยที่ ๒ตอบว่าอีกคนหนึ่ง แต่มีคนเดินมาคนร้ายจึงอุ้มผู้เสียหายไปที่อื่น แล้วข่มขืนกระทำชำเราจนผู้เสียหายสลบไป ตามพฤติการณ์ส่อว่าจำเลยที่ ๒ ได้ร่วมกับพวกเพื่อกระทำความผิดมาแต่ต้น
การร่วมกันกระทำชำเราอันเป็นการโทรมหญิงนั้นจะต้องก่อนหลังกันอยู่พวกของจำเลยบางคนได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว บางคนกำลังข่มขืนกระทำชำเราอยู่ จำเลยที่ ๒ เองก็ถอดกางเกงรออยู่พร้อมที่จะข่มขืนกระทำชำเราเป็นคนต่อไป แม้จำเลยที่ ๒ จะยังไม่ทันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เพราะมีผู้อื่นมายังที่เกิดเหตุ จึงหลบหนีไปเสียก่อน จำเลยที่ ๒ ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว
พิพากษายืน

Share