คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2198/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาจ้างข้อ 6 ระบุว่า เมื่องานแล้วเสร็จเรียบร้อยและผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้าง… ถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานจ้างนี้ภายในกำหนด 12 เดือนนับแต่วันที่ได้รับมอบงาน… ถ้างานที่จ้างเกิดชำรุดบกพร่องเสียหายขึ้นหลังจากระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย ข้อ 7 ระบุว่าเนื่องจากพันธะที่มีต่อกันตามสัญญานี้… บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้น… ให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ว่าจ้างทั้งสิ้น แต่ถ้ามีอันตรายหรือความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่สิ่งเหล่านั้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยประการใดก็ตาม ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดในความเสียหายเหล่านั้น และจัดหามาใหม่หรือแก้ไขให้คืนดี ทั้งนี้ภายใต้พันธะที่มีอยู่ในสัญญาอันยังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ภายหลังเวลาส่งมอบซึ่งผู้รับจ้างจำต้องรับผิดเพียงความบกพร่องและเพียงความเสียหายที่มีขึ้นภายในระยะเวลาที่กล่าวในสัญญาข้อ 6นอกจากนี้ตามสัญญาข้อ 4 ระบุว่า ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับค่าจ้างเป็นงวด ๆรวม 6 งวด เมื่อผู้ว่าจ้างตรวจรับงานที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแต่ละงวดแล้ว ผู้ว่าจ้างจะออกใบตรวจรับงานให้ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน และได้กำหนดวันเริ่มงานและให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ไว้ในสัญญาข้อ 5 อีกด้วย จากข้อสัญญาดังกล่าวจำเลยผู้รับจ้างย่อมมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้าง การที่จำเลยทำงานเสร็จแต่ละงวดนั้นถ้างานงวดสุดท้ายยังไม่เสร็จ จะถือว่างานแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญาไม่ได้ เพราะสัญญาได้กำหนดให้จำเลยทำงานให้แล้วเสร็จทั้งหกงวด สำหรับข้อความในสัญญาข้อ 7 ที่ยกเว้นความรับผิดของจำเลยว่า เว้นแต่ภายหลังการส่งมอบนั้นย่อมหมายถึงการส่งมอบงานงวดสุดท้ายจึงจะเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญา ดังนี้ เมื่อเกิดน้ำท่วมระหว่างที่จำเลยผู้รับจ้างทำงานที่ค้างอีกสามงวด ทำให้งานส่วนที่ตรวจรับแล้วเสียหาย จำเลยจึงยังต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจ้างเหมาให้จำเลยขุดคลอง ตบแต่งคันคลองและอาคารชลประทานในราคา ๑,๔๕๐,๐๐๐ บาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๓เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๒๓ จำเลยทำงาน ๓ งวดแรกเสร็จ โจทก์ได้ตรวจรับงานดังกล่าวและจ่ายค่าจ้างให้จำเลยไปแล้ว เป็นเงิน ๙๓๖,๐๐๐ บาท ต่อมาในเดือนกันยายนและตุลาคม ๒๕๒๓ระหว่างที่จำเลยทำงานอีก ๓ งวดที่ค้างอยู่ก็เกิดฝนตกหนักในบริเวณนั้น ทำให้น้ำท่วม ปรากฏว่างานคลองส่งน้ำที่จำเลยทำเสร็จส่งมอบให้โจทก์แล้วเกิดชำรุดเสียหายเป็นเงิน ๒๓๕,๐๐๐ บาทจำเลยไม่ซ่อมแซมให้คืนดี โจทก์ต้องจ้างเหมาผู้อื่นซ่อมแซมจนเสร็จ ในราคา ๒๓๕,๐๐๐ บาทโจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้จำเลยชำระเงิน ๒๓๕,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ตามสัญญาตกลงกันว่าเมื่อจำเลยทำงานงวดใดเสร็จโจทก์ได้ตรวจรับงานงวดนั้นและจ่ายเงินค่างวดให้จำเลยแล้ว ก็ถือว่าจำเลยได้ชำระหนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จำเลยจะต้องรับผิดเพียงความชำรุดบกพร่องตามธรรมดาอันอาจเกิดขึ้นได้เท่านั้นความเสียหายตามฟ้องเกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด ค่าเสียหายไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม๒๕๒๒ โจทก์ได้ทำสัญญาจ้างจำเลยขุดและตบแต่งคันคลองพร้อมสร้างอาคารชลประทาน ตำบลบ้านโต้นกิ่งอำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เป็นเงิน ๑,๙๕๐,๐๐๐ บาท กำหนดส่งมอบงานเป็น ๖ งวด และได้กำหนดวันที่ส่งงานแต่ละงวดไว้ด้วย จำเลยได้ก่อสร้างงานตามสัญญาดังกล่าวแล้ว ๓ งวดได้ส่งมอบงานงวดที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๒๓ โจทก์ได้จ่ายเงินค่าจ้างแก่จำเลยไปแล้วทั้งสามงวด ระหว่างที่จำเลยทำงานที่ค้างอีก ๓ งวดอยู่นั้น ได้เกิดน้ำท่วมทำให้คลองส่งน้ำส่วนที่ตรวจรับไว้แล้วเกิดชำรุดเสียหาย ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำสัญญาจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดขอนแก่นกิจเจริญก่อสร้างเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเป็นเงิน ๒๓๕,๐๐๐ บาทมีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยส่งมอบงานทั้งสามงวดให้โจทก์และโจทก์ได้จ่ายเงินให้จำเลยรับไปแล้ว ระหว่างที่จำเลยทำงานที่ค้างอีก ๓ งวดอยู่นั้น งานที่จำเลยทำเสร็จแล้วเกิดเสียหาย จำเลยจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยตามเอกสารหมาย ป.จ.๑ ข้อ ๖ ว่า “เมื่องานแล้วเสร็จเรียบร้อยและผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้าง…ถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานจ้างนี้ภายในกำหนด ๑๒ เดือนนับแต่วันที่ได้รับมอบงาน…ถ้างานที่จ้างเกิดชำรุดบกพร่องเสียหายขึ้นหลังจากระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย สัญญาข้อ ๗ ระบุว่า เนื่องจากพันธะซึ่งมีต่อกันตามสัญญานี้…บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้น…ให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ว่าจ้างทั้งสิ้นแต่ถ้ามีอันตรายหรือความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่สิ่งเหล่านั้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยประการใดก็ตาม ผู้รับจ้างจะเป็นผู้รับผิดในความเสียหายเหล่านั้น และจัดหามาใหม่หรือแก้ไขให้คืนดี ทั้งนี้ภายยใต้พันธะที่มีอยู่ในสัญญาอันยังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ภายหลังเวลาส่งมอบซึ่งผู้รับจ้างจำต้องรับผิดเพียงความบกพร่องและเพียงความเสียหายที่มีขึ้นภายในระยะเวลาตามที่กล่าวในสัญญาข้อ ๖ นอกจากสัญญาข้อ ๖ และข้อ ๗ แล้ว ตามสัญญาข้อ ๔ กำหนดว่า ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับค่าจ้างเป็นงวด ๆ รวม ๖ งวด เมื่อผู้ว่าจ้างตรวจรับงานที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแต่ละงวดแล้วผู้ว่าจ้างจะออกใบตรวจรับงานให้ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐานและได้กำหนดวันเริ่มงานและให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ไว้ในสัญญาข้อ ๕ อีกด้วย จากข้อสัญญาดังกล่าวเห็นว่าจำเลยย่อมมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้าง การที่จำเลยทำงานเสร็จแต่ละงวดนั้นถ้างานงวดสุดท้ายยังไม่เสร็จ จะถือว่างานแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญาไม่ได้ เพราะสัญญาได้กำหนดให้จำเลยทำงานให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ทั้งหกงวดในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๓ ดังนั้น ข้อความในสัญญาข้อ ๗ ที่ยกเว้นความรับผิดของจำเลยว่า เว้นแต่ภายหลังการส่งมอบนั้นย่อมหมายถึงการส่งมอบงานงวดสุดท้ายจึงจะเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญา ทั้งขณะเมื่อโจทก์แจ้งให้จำเลยมาแก้ไขงานที่เสียหายนั้น จำเลยว่าจะทำงานงวดต่อไปให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจะดำเนินการซ่อมแซมให้ แต่จำเลยไม่ทำ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดขอนแก่นเจริญก่อสร้างมาซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเป็นเงิน๒๓๕,๐๐๐ บาท ตามสัญญาเอกสารหมาย จ.๑ จำเลยมิได้สืบหักล้างแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่าโจทก์ได้จ่ายเงินให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดขอนแก่นกิจเจริญก่อสร้างไปจริง
พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์.

Share