คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2184/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมจำนวนหนึ่ง และเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยดอกเบี้ยทั้งสองจำนวน มิฉะนั้นให้บังคับจำนองทรัพย์สินที่นำมาเป็นประกัน จำเลยให้การต่อสู้เกี่ยวกับอำนาจฟ้องโดยอ้างเหตุหลายประการด้วยกัน และยังต่อสู้เกี่ยวกับการคิดดอกเบี้ยด้วยเหตุหลายประการเช่นกัน ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ และจำเลยต้องรับผิดดอกเบี้ยหรือไม่เพียงใด โดยให้โจทก์นำสืบก่อน ย่อมครอบคลุมข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งหมดแล้วหาจำต้องแยกแยะประเด็นเป็นข้อย่อยดังที่จำเลยยื่นคำแถลงเสนอประเด็นข้อพิพาทแต่อย่างใดอีกไม่ การกำหนดประเด็นข้อพิพาทของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 183 ที่แก้ไขใหม่ ที่ใช้บังคับขณะศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้ว
จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านตาม ป.วิ.พ.มาตรา 183 วรรคสี่โดยระบุไว้ด้วยว่า เพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำคัดค้านเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดว่ารวมสำนวนไว้ ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่า ประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ถูกต้องแล้ว ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังคำคัดค้านของจำเลย กรณีพอถือได้ว่า ศาลชั้นต้นได้ชี้ขาดคำคัดค้านเกี่ยวกับการกำหนดประเด็นข้อพิพาทของจำเลยแล้ว

Share