แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ไม้สักของกลางจะเป็นของจำเลยจริงหรือไม่ โจทก์ไม่มีพยานมาสืบสนับสนุน ลำพังแต่ เฉพาะ คำรับสารภาพของจำเลยในขั้นจับกุมเท่านั้นยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยมีไม้สักของกลางไว้ในครอบครอง คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อย ดังนี้ คดีไม่พอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 5, 7, 48, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 2 ปีคำให้การรับสารภาพชั้นจับกุมของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยครอบครองไม้สักของกลาง ข้อนำสืบของโจทก์ที่ว่าเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเห็นรถยนต์บรรทุกไม้สักของกลางแล่นมา เจ้าพนักงานตำรวจให้สัญญาณรถหยุดแต่รถไม่หยุดจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามไป ครั้นติดตามไปประมาณ 100 เมตรรถจึงหยุด มีชาย 2 คนเปิดประตูรถหลบหนีไปนั้น ฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นชายคนหนึ่งที่หลบหนีไป หรือเป็นเจ้าของไม้สักของกลางที่บรรทุกมากับรถ โจทก์นำสืบเพียงว่าในระหว่างเจ้าพนักงานตำรวจนำรถยนต์บรรทุกไม้สักของกลางไปสถานีตำรวจนั้นจำเลยมาปรากฏตัวแสดงตนต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าไม้สักของกลางเป็นของจำเลย เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำบันทึกการจับกุมไว้โดยมีข้อความระบุว่าจำเลยให้การรับสารภาพว่าไม้สักของกลางเป็นของจำเลย แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วไม้สักของกลางจะเป็นของจำเลยจริงหรือไม่โจทก์ก็ไม่มีพยานมาสืบสนับสนุน จำเลยอาจจะเป็นบุคคลที่ผู้อื่นซึ่งเป็นเจ้าของไม้สักของกลางใช้ให้มาแอบอ้างกับเจ้าพนักงานตำรวจว่าไม้สักของกลางเป็นของตนด้วยอามิสสินจ้างหรือด้วยประการอื่นใดก็ได้ ฉะนั้น ลำพัง แต่เฉพาะคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมเท่านั้นยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยมีไม้สักของกลางไว้ในครอบครอง คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อยไม่พอที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้…”
พิพากษายืน.