คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์กระทำผิดวินัยเกี่ยวกับการทำงาน จำเลย ย่อม มีอำนาจออกหนังสือตักเตือนและมีอำนาจนำหนังสือตักเตือนไปประกาศให้โจทก์และลูกจ้างอื่นของจำเลยทราบได้การที่โจทก์ไปฉีกทำลายประกาศหนังสือตักเตือนของจำเลยโดยพลการ ทำให้ทรัพย์สินคือหนังสือตักเตือนของจำเลยต้องสูญเสียหายและขาดประโยชน์และอาจทำให้ลูกจ้างอื่นของจำเลย เอาอย่าง ทำให้จำเลยไม่สามารถปกครองบังคับบัญชาลูกจ้างได้ การกระทำของโจทก์จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิดและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าโจทก์ทำงานมานาน 9 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยจำนวน 33,149 บาท และมีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 2,762 บาท ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันผิดนัดคือวันที่ 25 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การด้วยวาจาว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากโจทก์ฉีกประกาศหนังสือตักเตือนที่จำเลยตักเตือนโจทก์ จึงถือว่าเป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายเงินตามฟ้องให้โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า แม้โจทก์ฉีกประกาศหนังสือตักเตือนที่จำเลยตักเตือนโจทก์ อันเป็นการกระทำผิดวินัยเกี่ยวกับการทำงาน แต่ยังมิใช่เป็นกรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 33,149 บาท และจ่ายค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 2,762 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า การที่โจทก์ฉีกประกาศหนังสือตักเตือนที่จำเลยปิดประกาศไว้ที่ประกาศของโรงงานจำเลยเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่า เมื่อโจทก์กระทำผิดวินัยเกี่ยวกับการทำงาน จำเลยย่อมมีอำนาจออกหนังสือตักเตือนและมีอำนาจนำหนังสือตักเตือนไปประกาศให้โจทก์และลูกจ้างอื่นของจำเลยทราบได้ การที่โจทก์ไปฉีกทำลายประกาศหนังสือตักเตือนของจำเลยโดยพลการ ทำให้ทรัพย์สินคือหนังสือตักเตือนของจำเลยต้องสูญเสียหายและขาดประโยชน์และอาจทำให้ลูกจ้างอื่นของจำเลยเอาอย่าง ทำให้จำเลยไม่สามารถปกครองบังคับบัญชาลูกจ้างได้การกระทำของโจทก์จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share