แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
น่าที่นำสืบ ร้องขอสืบหักล้างนั้น ต้องร้องเสียในชั้นศาลเดิม
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกับผู้ล้มละลายยักยอกเข้าสารแลกระสอบ
จำเลยให้การว่าได้รับโอนเข้าสารแลกระสอบไว้โดยสุจริตแลมีสินจ้าง
ปัญหาจึงมีว่า ประเด็นจะตกฝ่ายใดนำสืบก่อน
ศาลแพ่งสั่งให้จำเลยนำสืบตามข้อต่อสู้เพราะจำเลยแถลงว่าได้รับโอนเข้าไว้จริง
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินให้โจทย์ชะนะ
จำเลยฎีกา (๑) โจทย์ไม่ได้กล่าวถึงมาตรา ๔๕ แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย ร.ศ.๑๓๐ ต้องเปนน่าที่โจทย์สืบก่อน (๒) โจทย์นำสืบว่าตามธรรมเนียมจีนใบเสร็จที่จำเลยส่งศาลนั้นไม่ใช่ใบรับเงินเช่นนี้ทำให้จำเลยไม่มีโอกาศสืบหักล้างธรรมเนียมนั้นได้
ฎีกาวินิจฉัยว่า ในฎีกาข้อ (๑) โจทย์ได้กล่าวชัดเจนว่า ก่อน ง.ล้มละลายเพียง ๒ วัน จำเลยได้รับทรัพย์ของ ง.โดยทุจริต แม้โจทย์จะไม่ได้กล่าวถึงมาตรา ๔๕ ผลก็ไม่ต่างกันเมื่อจำเลยแก้ว่าตนได้รับไว้โดยสุจริตมีสินจ้างเช่นนี้น่าที่นำสืบตกอยู่แก่จำเลย ในฎีกาข้อ (๒) ใบรับที่จำเลยอ้างนั้นเปนตั๋วนำส่งเข้าแต่มีคำว่า “เก็บเงินเสร็จแล้ว” จะใช้เปนใบรับเงินไม่ได้ เพราะตามธรรมเนียมการค้าต้องเขียนใบรับเงินไว้ต่างหากอีกฉบับ ๑ ส่วนข้อที่จำเลยร้องว่าไม่มีโอกาศสืบหักล้างในเรื่องธรรมเนียมการค้านั้นควรร้องเสียแต่ในชั้นพิจารณาจะมาร้องในชั้นฎีกาไม่ได้ จึงให้โจทย์ชะนะ