คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2169/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเป็นพยานในศาลจะต้องสาบานตนหรือกล่าวคำปฏิญาณว่าจะให้การตามสัตย์จริงเสียก่อนเบิกความ และในการเบิกความศาลมีอำนาจที่จะซักถามพยานและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งชอบที่จะถามค้านพยานได้ แม้พยานจะพูดภาษาไทยไม่ได้ก็สามารถใช้ล่ามแปลได้ การที่ตัวโจทก์เป็นชาวจีนฮ่องกงก็ไม่เป็นข้อขัดข้องที่จะมาเป็นพยาน ดังนั้นการที่ตัวโจทก์ไม่มาเป็นพยานในศาลจึงทำให้พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน้อยและเป็นข้อพิรุธ
จำเลยที่ 2 ออกเช็คโดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำความผิด แม้ต่อมาจะมีการประทับตรายางวันที่ตามข้อตกลงอันมีต่อกันระหว่างคู่กรณีก็ตาม ก็มีผลเพียงให้เช็คพิพาทนั้นสมบูรณ์ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ในทางแพ่งเท่านั้น การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 แม้จำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียวฎีกา จำเลยที่ 1 มิได้ฎีกาด้วยก็ตาม แต่เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ที่มิได้ฎีกาให้มิต้องถูกรับโทษด้วยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225

Share