แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในรูปของค่าธรรมเนียมสมาชิกหรือด้วยวิธีการอื่นใดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน และมิใช่กรณีที่ได้รับยกเว้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ฯ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 6 และต้องรับโทษตามมาตรา 34 ซึ่งสาระสำคัญของการกระทำที่กล่าวหาว่าเป็นความผิดมีเพียงจำเลยประกอบกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ดังนั้นเครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเล่นเกมส์และแผ่นซีดีของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดไม่มีเหตุที่จะริบได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งแถบบันทึกภาพและเสียง ซึ่งบันทึกภาพและเสียงของเกมส์ต่าง ๆ อันเป็นเทปวัสดุโทรทัศน์ โดยทำเป็นธุรกิจและได้ประโยชน์ตอบแทนจากการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและมิใช่กรณีที่ได้รับการยกเว้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดโทรทัศน์ 1 เครื่อง เครื่องเล่นเกมส์ 1 เครื่อง และแผ่นซีดี 2 แผ่น เป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 34 ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 6, 34 จำคุก 2 เดือนและปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 3,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ไม่ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงว่าโทรทัศน์1 เครื่อง เครื่องเล่นเกมส์ 1 เครื่องและแผ่นซีดี 2 แผ่น ของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดอันศาลจะต้องริบหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์กล่าวหาจำเลยแต่เพียงว่า จำเลยประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้ประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในรูปของค่าธรรมเนียมสมาชิกหรือด้วยวิธีการอื่นใดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน และมิใช่กรณีที่ได้รับการยกเว้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 6 และต้องรับโทษตามมาตรา 34 ซึ่งสาระสำคัญของการกระทำของจำเลยที่กล่าวหาว่าเป็นความผิด จึงมีเพียงจำเลยประกอบกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ดังนั้น เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเล่นเกมส์และแผ่นซีดีของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด จึงไม่มีเหตุที่จะริบได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน