แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 มีหนังสือถึงโจทก์แสดงความประสงค์จะขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จตามราคาที่จำเลยที่ 3 ได้มาติดต่อไว้แล้วเพื่อทำถนน ในวันรุ่งขึ้นโจทก์ก็ส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ทันทีและทยอยส่งมาให้อีก 2 ครั้ง จนถนนแล้วเสร็จ ซึ่งถ้าหากจำเลยที่ 2 ไม่มีหนังสือแจ้งไปเหตุไฉนโจทก์จะส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้สนองรับข้อเสนอของจำเลยที่ 2 แล้วโดยสมบูรณ์
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างถนนในกิจการของจำเลยที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายในเวลากำหนด โดยให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ตัดสินใจในการจัดทำถนนให้เสร็จในกำหนดเวลานั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการในเรื่องทำถนนให้เสร็จตามกำหนดเวลา จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยายในการที่จะต้องสร้างถนนให้ทันตามกำหนดเวลา การที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์มาสร้างถนนดังกล่าวให้ทันเวลาตามความประสงค์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย จำเลยที่ ๒ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลและสังกัดอยู่กับจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๓ เป็นนิตเบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยทั้งสามได้ซื้อเชื่อคอนกรีตผสมเสร็จไปจากโจทก์ร่วม ๓ คราว เป็นเงิน ๔๗,๑๕๐ บาท จำเลยทั้งสามได้รับคอนกรีตผสมเสร็จดังกล่าวครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ได้ชำระราคา โจทก์ทวงถามแล้วไม่ยอมชำระ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน ๔๗,๑๕๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การร่วมกันว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ว่าจ้างได้ทำสัญญาจ้างเหมา จำเลยที่ ๓ ให้เป็นผู้ก่อสร้างถนนคอนกรีตโดยผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสิ่งของและสัมภาระ จำเลยที่ ๑ ไม่เคยรับซื้อเชื่อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ ส่วนจำเลยที่ ๒ เคยมีหนังสือขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ แต่โจทก์มิได้สนองตอบคำเสนอของจำเลยที่ ๒ สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๒ จึงมิบังเกิดขึ้นได้ คอนกรีตผสมเสร็จตามฟ้องผู้ซื้อและผู้รับของคือ จำเลยที่ ๓ เป็นคนละรายกับที่ + จำเลยที่ ๒ เสนอ จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ คดีโจทก์ขาดอายุความ
จำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๓ ชำระเงิน ๔๗,๑๕๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้องด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ร่วมชำระเงิน ๔๗,๑๕๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าจำเลยที่ ๑ ไม่เคยขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยที่ ๒ มีหนังสือขอซื้อไปดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.๖ หรือ ล.๑ ก็ตาม ก็เป็นการกระทำส่วนตัวของจำเลยที่ ๒ เอง จำเลยที่ ๑ ไม่รู้เห็นยินยอมหรือให้สัตยาบัน ทั้งโจทก์ก็มิได้แจ้งหรือสนองรับเป็นหนังสือให้จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างตามสัญญาทราบ หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงคำมั่นของจำเลยที่ ๒ ว่าจะหักเงินให้โจทก์เพื่อสนองรับและแจ้งขอรับเงินในเวลาอันสมควรเท่านั้น เห็นว่าข้อความตามเอกสารหมาย จ.๒ หรือ ล.๑ มีว่า จำเลยที่ ๒ มีความประสงค์จะขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จตามราคาที่จำเลยที่ ๓ ได้มาติดต่อไว้แล้วเพื่อทำถนนของโรงพยาบาล และขอให้ทางโจทก์และเกลี่ยให้เสร็จ โดยจำเลยที่ ๒ ขอรับรองว่าเมื่อจำเลยที่ ๓ ได้รับเงินค่าจ้างเหมาทำถนนนี้แล้ว จำเลยที่ ๒ จะหักเงินไว้ให้เพื่อชำระค่าคอนกรีตให้โจทก์ ปรากฏว่าเมื่อจำเลยที่ ๒ มีหนังสือไปแล้วในวันรุ่งขึ้นนั้นเอง โจทก์ก็ส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาในทันที และทยอยส่งให้จนถนนแล้วเสร็จ ซึ่งถ้าจำเลยที่ ๒ ไม่มีหนังสือแจ้งไป เหตุไฉนโจทก์จึงส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์สนองรับข้อเสนอของจำเลยที่ ๒ แล้วโดยสมบูรณ์ทั้งข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าหลังจากโจทก์ส่งคอนกรีดผสมเสร็จให้เรียบร้อยแล้ว จำเลยที่ ๒ ก็ยังยืนยันที่หักเงินค่าจ้างเหมาให้โจทก์อีก
ข้อที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าเอกสารหมาย จ.๒ และ ล.๑ จำเลยที่ ๒ กระทำไปโดยส่วนตัว ไม่ผูกพันจำเลยที่ ๑ นั้น เห็นว่าตามคำเบิกความของนายแพทย์กษาณผู้แทนจำเลยที่ ๑ ว่า “ก่อนที่จะเปิดตึก ๘๔ ศิริราช เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๙๖ ถนนนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ จำเลยที่ ๑ ต้องทำถนนให้เสร็จก่อนเปิดตึกศิริราช จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ตัดสินใจในการจัดทำถนนให้เสร็จก่อนวันเปิดตึกศิริราช” นั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยที่ ๑ ได้มอบหมายให้จำเลยที่ ๒ ดำเนินการในเรื่องทำถนนให้เสร็จก่อนวันดังกล่าว จำเลยที่ ๒ จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๑ โดยปริยายในการที่จะต้องสร้างถนนให้ทันตามกำหนดเวลา ฉะนั้น การที่จำเลยที่ ๒ สั่งซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์มาสร้างถนนดังกล่าวให้ทันเวลาตามความประสงค์ของจำเลยที่ ๑ จึงเป็นการทำในขอบเขตวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษายืน