คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลมณฑลทหารบกที่ 2(ศาลจังหวัดชลบุรี) นั้น เมื่อศาลมีคำสั่งปรับผู้ประกันและสั่งยกคำร้องที่ขอลดค่าปรับจึงเป็นคำสั่งของศาลมณฑลทหารบกที่ 2(ศาลจังหวัดชลบุรี) อันเป็นคำสั่งของศาลทหารมิใช่คำสั่งของศาลจังหวัดชลบุรีในฐานะศาลพลเรือนเป็นผู้สั่ง ดังนั้นผู้ประกันจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลทหารไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 2(ศาลจังหวัดชลบุรี) ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288นางสมบูรณ์ เชาว์เจริญรัตน์ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวโดยมีประกัน ถ้าผิดสัญญาประกัน ผู้ประกันยอมให้ปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ถึงกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่มาศาลตามนัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกันให้ผู้ประกันนำเงินค่าปรับมาชำระต่อศาลภายใน 7 วัน
ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ในฐานะอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 2 (อัยการจังหวัดชลบุรี) ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 2 (ศาลจังหวัดชลบุรี) กรณีจึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร การออกหมายขังจำเลยไว้ระหว่างสอบสวน การพิจารณาเกี่ยวกับสัญญาประกันนับตั้งแต่คำสั่งร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวคำสั่งปรับผู้ประกันและคำสั่งให้ยกคำร้องที่ขอลดค่าปรับ ล้วนแต่เป็นคำสั่งของศาลมณฑลทหารบกที่ 2 (ศาลจังหวัดชลบุรี) อันเป็นคำสั่งของศาลทหารทั้งสิ้น มิใช่ศาลจังหวัดชลบุรีในฐานะศาลพลเรือนเป็นผู้สั่ง ดังนั้นผู้ประกันจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลทหารไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้ การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ประกันเป็นการมิชอบ ผู้ประกันไม่มีสิทธิฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาของผู้ประกัน

Share