คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานโจก์คดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างเหตุว่าทนายป่วย ศาลพิจารณาใบรับรองแพทย์ที่โจทก์ยื่นประกอบคำร้องแล้ว ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา แล้วสั่งให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ โจทก์แถลงว่า “เมื่อทนายโจทก์ไม่มาศาลวันนี้ โจทก์ก็ไม่สืบพยาน” ข้อความดังนี้มีความหมายว่าในวันนั้นเมื่อทนายโจทก์ไม่มา โจทก์ก็ไม่สืบพยาน มิใช่หมายความว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานทั้งคดี ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมีเหตุผลเพียงพอ ย่อมพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาเพราะป่วย ศาลไม่อนุญาต โจทก์แถลงไม่สืบพยานถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาพิสูจน์ความผิดของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างเหตุว่าทนายป่วย และตัวโจทก์แถลงเพิ่มเติมศาลว่า ขอเวลาตรึกตรองจะแถลงให้ศาลทราบในตอนบ่าย ทนายจำเลยแถลงว่า แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร ในตอนบ่ายโจทก์ยื่นใบรับรองของแพทย์ต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณา ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่ปรากฏว่าแพทย์ตรวจกาการของทนายโจทก์เมื่อใด อาการป่วยมากน้อยเพียงใด ใบรับรองแพทย์ไม่ได้ระบุข้อความให้เห็นหรือพอสันนิษฐานได้ว่าทนายป่วยจนมาศาลไม่ได้ ประกอบกับโจทก์แถลงว่า ทนายโจทก์แข็งแรงดี แต่เสียงแหบแห้ง ศาลชั้นต้นจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจาณาแล้วศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ โจทก์แถลงว่า “เมื่อทนายโจทก์ไม่มาศาลวันนี้โจทก์ก็ไม่สืบพยาน”
วินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์แถลงว่าไม่สืบพยานแล้ว จึงนำพยานเข้าสืบไม่ได้นั้นข้อความที่โจทก์แถลงนั้นมีความหมายชัดเจนว่า ในวันนั้นเมื่อทนายโจทก์ไม่มา โจทก์ก็ไม่สืบพยานมิใช่หมายความว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานในคดีเรื่องนี้ทั้งคดี ถ้าโจทก์ประสงค์เช่นนั้นก็คงจะไม่ยื่นคำร้องขอเลื่อนและยื่นใบรับรองแพทย์ต่อศาล ซึ่งหากศาลได้อนุญาตให้เลื่อน โจทก์ก็อาจนำพยานเข้าสืบได้ ส่วนข้อฎีกาที่ว่า ไม่มีเหตุสมควรให้เลื่อนคดีนั้น เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาตรา ๔๐ ซึ่งต้องนำมาบังคับในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕ บัญญัติว่า ถ้าการขอเลื่อนนั้นเป็นเพราะความเจ็บป่าวของทนายของผู้ขอ และอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านให้ศาลอนุญาตได้เฉพาะ แต่ในกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ เรื่องนี้ ทนายจำเลยมิได้คัดค้าน ทั้งโจทก์มีใบรับรองแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่า นายทองปักษ์ เพียงเกษ เป็นโรคไข้หวัดใหญ่และลำคออักเสบ แม้มิได้ระบุว่าตรวจในวันใด ก็ต้องเข้าใจว่าได้ตรวจอาการในวันที่ลงในใบรับรองแพทย์นั้นเอง ตัวโจทก์แถลงต่อศาลว่า ทนายโจทก์เสียงแหบแห้ง ซึ่งน่าจะเป็นอาการของคออักเสบ ดังนั้น แม้ว่าทนายโจทก์จะแข็งแรงดีมาศาลได้ แต่ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าอาการป่วยเช่นนั้นไม่น่าจะดำเนินคดีในการสืบพยานโจทก์ได้ จึงมีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนการพิจารณาไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share