แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าที่ดินจากเจ้าของเดิมแต่ไม่มีหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน ผู้เช่าได้ปกครองที่ดินโดยสุจริต ได้ปลูกต้นกล้วยและผลไม้ล้มลุกไว้ในที่ดิน ผู้รับโอนที่ดินนั้นมาโดยคำพิพากษา ได้ทำลายต้นผลไม้ที่ผู้เช่าปลูกไว้ดังนี้ นับว่าเป็นการกระทำละเมิดตาม ป.พ.พ.ม.420 ผู้เช่ามีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าที่ดินของเจ้าจอมพิสว์ เพื่อทำการเพาะปลูกและปลูกโรงเรือน ต่อมาจำเลยที่ ๑ ได้จ้างวานหรือใช้จำเลยที่ ๒ กับพวกบุกรุกเข้าไปถอนต้นผลไม้ต่างๆที่โจทก์ปลูกไว้ เรียกค่าเสียหาย ๑๑๕๗ บาท
จำลยให้การว่าทีดินที่โจทก์ฟ้อง ภริยาจำเลยที่ ๑ ได้รับโอนมาตามคำพิพากษา จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์เป็นผุ้เช่าอยู่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดเพราะกระทำโดยสุจริตในที่ดินของภริยาจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๑๕๗ บาท
ศาลอุทธร์ให้พิพากษาให้ใช้ ๔๐๐ บาท
โจทก์จำเลยฎีกาในข้อกฏหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้เข้าปปกครองที่ดินโดยสุจริตโดยเช่าจากเจ้าของเดิม แต่ไม่มีสัญญาเช่า และโจทก์ก็ได้ปลูกต้นกล้วยและไม้ล้มลุกไว้ในที่ดิน จำเลยผู้ได้รับโอนมาโดยคำพิพากษา ได้ทำลายต้นผลไม้ที่โจทย์ปลูกไว้ นับว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดตาม ป.พ.พ.ม.๔๒๐ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง จงพิพากษายืน.