คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงทุกวันนั้นแม้ก่อนบรรพ 4 ก็ถือว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ.127 ม.35 เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจออกโฉนดซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินให้แก่เอกชน ๆ หาได้กรรมสิทธิไม่ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชเอกชนจะได้กรรมสิทธิในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้ก็ต้องได้รับพระราชหัตถเลขาเป็นพิเศษจากพระเจ้าแผ่นดิน
ฟ้องตัดสิน โจทก์ฟ้องอ้างตนว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดิน ศาลมีหน้าที่วินิจฉัยในเรื่องกรรมสิทธิอย่างเดียว ไม่ต้องวินิจฉัยถึงเรื่องครอบครองด้วยฟ้องที่กล่าวว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินและได้ครอบครองใช้อำนาจเป็นเจ้าของนั้นเป็นฟ้องฐานอ้างกรรมสิทธิไม่ใช่อ้างสิทธิครอบครอง ที่ดินอาศัยชวนกันให้เข้าไปอยู่ในที่ที่มีสภาพปรากฎเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่แล้วไม่เข้าลักษณอาศัย

ย่อยาว

คดีได้ความว่าที่รายพิพาทนี้เป็นที่ลาดชายหาดยื่นออกไปจากฝั่งทะเล ตำบลศรีราชาน้ำทะเลท่วมถึงทุกวัน ปรากฎว่าที่พิพาทนี้อยู่ในเขตต์โฉนดซึ่งเจ้าพนักงานเป็นผู้ออกให้สามีโจทก์เป็นเวลานานมาแล้วจำเลยได้เข้ามาปลูกบ้านเรือนในที่พิพาทนี้และกีดกั้นถนนของโจทก์ ๆ จึงฟ้องข้อเท็จจริงแลเรียกค่าเสียหาย
ศาลฎีกาเห็นว่าที่พิพาทนี้เป็นที่ชายตลิ่งของทะเล แม้ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งบรรพ ๓๔ ตามธรรมเนียมประเพณีของไทยถือว่า เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เจ้าพนักงานจะออกโฉนดบนที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินให้เอกชนไม่ได้ แม้ในสมัยออกโฉนดฉะบับนี้พระเจ้าแผ่นดินทรงมีพระราชหัตถเลขาออกให้เป็นพิเศษอย่างใด เป็นการออกโฉนดซึ่งเจ้าพนักงานกระทำตามหน้าที่กฎหมายอนุญาต
โจทก์จะอ้างอำนาจครอบครองขึ้นเถียงมิได้ เพราะเรื่องนี้โจทก์ฟ้องอ้างตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ ศาลจึงมีหน้าที่วินิจฉัยตามฟ้อง คือเรื่องกรรมสิทธิอย่างเดียว ไม่ต้องวินิจฉัยถึงเรื่องครอบครองด้วย และจะว่าจำเลยอาศัยสามีโจทก์อยู่ก็ไม่ได้เพราะที่ที่สามีโจทก์ชวนจำเลยเข้ามาอยู่นั้นมีสภาพปรากฎเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งสามีโจทก์ก็ไม่มีกรรมสิทธิในที่นั้นอยู่แล้ว จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง

Share