แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)นั้น หมายถึงผู้กระทำจะต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัว มิใช่เพียงแต่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในเคหสถาน จำเลยเพียงแต่ยื่นมือผ่านบานเลื่อนไม้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายแล้วทุบกระต่ายออมสินของผู้เสียหายลักเอาเงินไป โดยจำเลยมิได้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เข้าไปในบริเวณห้องพัก อันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนางสาววัฒนา ชีกรรแสง ผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วลักเอาเงินจำนวน 20,000 บาท ของผู้เสียหายซึ่งเก็บรักษาไว้ในเคหสถานดังกล่าวไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(8) ให้จำเลยคืนหรือใช้เงินจำนวน 20,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(8) วรรคสาม ให้จำคุก 3 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน20,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่กระทำผิดตามฟ้องพยานหลักฐานจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้แต่ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8) ด้วยนั้น เห็นว่า ยังไม่ถูกต้องเนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 บัญญัติว่า “ผู้ใดลักทรัพย์(8) ในเคหสถาน ที่ตนได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือซ่อนตัวอยู่ในสถานที่นั้น ๆ” ถ้อยคำที่ว่า “ที่ตนได้เข้าไป” หมายถึงผู้กระทำจะต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัว มิใช่เพียงแต่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในเคหสถาน ในคดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ยื่นมือผ่านบานเลื่อนไม้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายแล้วทุบกระต่ายออมสินของผู้เสียหายลักเอาเงินไป โดยจำเลยมิได้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) วรรคสอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์