คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอาใบทะเบียนรถยนตร์มอบเขายึดเป็นประกันเงินกู้ไว้ต่อมาไปพูดขอเอามาเพื่อต่อทะเบียนรถแลก็ได้เอาไปต่อทะเบียนรถจริง ๆ ภายหลังกลับเอาไปโอนขายให้ผู้อื่นเสียดังนี้ยังไม่มีผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอก

ย่อยาว

คดีได้ความว่า เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๖๐๐ บาท แล้วมอบใบทะเบียนรถยนตร์ของจำเลยให้ไว้เป็นประกัน แต่มิได้มอบรถให้ยึด ต่อมาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๗ จำเลยได้ไปหาโจทก์ขอใบทะเบียนรถมาโดยบอกว่าจะเอามาต่อทะเบียน โจทก์จึงได้ให้มา ภายหลังเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๘ จำเลยได้โอนขายรถนี้ให้แก่ ช.ไปปรากฎว่าก่อนจำเลยชายนี้ก็ไปต่อทะเบียนรถจริงทุก ๆ ระยะ ๓ เดือน จนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๘ โจทก์หาว่าจำเลยฉ้อโกงแลยักยอก จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๔-๓๑๔
ศาลฎีกาเห็นว่าเวลาที่จำเลยรับใบทะเบียนรถไปจำเลยก็มิได้ใช้อุบายหลอกลวงประการใด แลจำเลยก็นเอาใบทะเบียนนั้นไปต่ออายุจริง การที่จำเลยคิดกลับใจขายรถยนตร์ในภายหลังจะสันนิษฐานย้อนขึ้นไปว่าจำเลยทุจจริตคิดหลอกลวงหาเพียงพอไม่ ส่วนข้อหาฐานยักยอกนั้นเห็นว่าทรัพย์รายนี้เป็นของจำเลย โจทก์เป็นผู้รับมอบไว้เพื่อเป็นประกันเงินกู้ หาใช่โจทก์เป็นผู้มอบไม่ คดียังไม่เข้ามาตรา ๓๑๔ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์

Share