แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายก่อเหตุก่อนด่าว่าจำเลย ถือเหล็กไขควงบุกรุกขึ้นไปบนเรือน จำเลยแล้วใช้เหล็กไขควงแทงจำเลย แต่แทงไม่ถูกเพราะจำเลยหลบทัน จำเลยจึงใช้มีดดาบฟันผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ถึง 4 แห่ง เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ เพราะจำเลยฟันผู้ตายเพียงครั้งเดียวก็จะหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายไม่ให้เข้าทำร้ายจำเลยได้ต่อไปอีกแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดดาบฟันนายสำเนียงหลายที่โดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้นายสำเนียงตายในทันที ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบมีดดาบของกลาง กับขอให้เพิ่มโทษตามมาตรา ๙๒
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับข้อเคยต้องโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุกจำเลย ๑๕ ปี เพิ่มโทษตามมาตรา ๙๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็นจำคุก ๒๐ ปี คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษตามมาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยไว้ ๑๓ ปี ๔ เดือน มีดดาบของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ มีดของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าคืนเกิดเหตุผู้ตายด่าว่าจำเลย จำเลยเรียกให้ผู้ตายขึ้นไปบนบ้านจำเลยเพื่อปรับความเข้าใจกัน ผู้ตายถือเหล็กไขควงทั้งดามและตัวเหล็กยาว ๑ ศอกขึ้นไปบนบ้านจำเลย วิ่งไล่จำเลยเข้าไปถึงห้องจำเลยแล้วใช้ไขควงแทงจำเลย จำเลยหลบทันไม่ถูกจำเลยจึงใช้มีดดาบฟันผู้ตายเป็นบาดแผล ๔ แห่ง คือ ที่บริเวณคางแถบซ้ายยาว ๑๐ เซนติเมตร ตัดกระดูกกรามด้านล่างขาดออกจากกันที่ใต้ข้อศอกซ้ายประมาณ ๒ นิ้ว กระดูกทั้งสองท่อนขาดเหลือติดแต่ผิวหนัง ที่คอด้านขวายาว ๗ เซนติเมตร ลึกลงไปตัดเส้นเลือดจูกูล่าและคาโรติค และที่ไหล่ซ้ายขนาด ๘ x ๒ เซนติเมตร ผู้ตายออกมาล้มอยู่ที่ระเบียงบ้านจำเลย และไปตายระหว่างถูกส่งโรงพยาบาลจึงวินิจฉัยว่าผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน ด่าว่าจำเลยถือเหล็กไขควงบุกรุกขึ้นไปบนเรือนจำเลยและใช้เหล็กไขควงแทงจำเลย แม้จะไม่ถูกก็ถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตน ฉะนั้น การที่จำเลยใช้มีดดาบฟันผู้ตายจึงเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลย ผู้ตายใช้เหล็กไขควงแทงจำเลยครั้งเดียวในตอนแรกเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ไม่ได้เข้าทำร้ายจำเลยต่อไปอีก แต่ปรากฏว่าจำเลยใช้มีดดาบฟันผู้ตายมีบาดแผลถึง ๔ แห่ง ทุกแห่งเป็นบาดแผลฉกรรจ์ จึงเห็นได้ว่าจำเลยฟันผู้ตายเพียงครั้งเดียวก็จะหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายไม่ให้เข้าทำร้ายจำเลยได้ต่อไปอีกแล้ว ฉะนั้นการที่จำเลยยังใช้มีดดาบฟันผู้ตายต่อไปอีกไม่หยุดยั้ง จนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการกระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ จำคุกจำเลยมีกำหนด ๓ ปี เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็นจำคุกจำเลยมีกำหนด ๔ ปี ริบมีดดาบของกลาง