แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปและมีคนตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 294 โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในข้อนี้ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์จะขอให้ศาลลงโทษจำเลย ศาลจะลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ แต่โจทก์ได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา คดีส่วนตัวจำเลยที่ 1 ขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ด้วยแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีลงโทษจำเลยที่ 1 ไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษฐานวิวาทเป็นเหตุให้คนตาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ยกฟ้องได้ โดยไม่ใช่กรณีที่ต้องอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนี ได้บังอาจสมคบกันใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๒๘๘, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ จำคุก ๗ ปี ๖ เดือน ลดฐานรับสารภาพตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๕ ปี ส่วนจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานชุลมุนทำให้คนตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๔ ซึ่งโจทก์มิได้บรรยายมาในฟ้องจึงต้องยกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการวิวาทชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป เป็นเหตุให้ผู้ตายซึ่งร่วมในการชุลมุนต่อสู้ถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๔ แต่โจทก์ก็ไม่ได้บรรยายในเรื่องวิวาทต่อสู้ชุลมุนวุ่นวายอันเป็นความผิดตามมาตรา ๒๙๔ มาในฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่โจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษและเหตุยกฟ้องนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลมีอำนาจยกฟ้องตลอดถึงจำเลยที่ ๑ ด้วย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยที่ ๑ ไป นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า รูปคดีเพียงฟังได้ว่าได้มีการชุลมุนต่อสู้กันระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และมีนายเสริม ธรรมวงศ์ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้ อันเป็นบทที่กฎหมายบัญญัติโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๔ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยในข้อนี้ จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์จะขอให้ศาลลงโทษจำเลย ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้ ส่วนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เหตุนี้เป็นเหตุลักษณะคดี แม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยที่ ๑ มา และจำเลยที่ ๑ มิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะยกฟ้องเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๓นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ฐานฆ่าคนโดยเจตนา คดีส่วนตัวจำเลยที่ ๑ ขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ด้วยแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีลงโทษจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษฐานวิวาทเป็นเหตุให้คนตาย ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องได้ โดยไม่ใช่กรณีที่ต้องอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๓ และเพียงแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลย หาอาจฟังลงโทษจำเลยได้ไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์