คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ลูกระเบิดจะไม่มีชนวนหัวท้ายที่จะนำมาประกอบ เข้าด้วยกัน แต่ลูกระเบิดก็มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเองพร้อมที่จะใช้งาน หากนำชนวนหัวและชนวนท้ายมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็จะสามารถทำการยิงได้ทันที จึงเป็นวัตถุระเบิดหรือ เครื่องกระสุนปืนตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2) และ (3) แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันมีลูกระเบิดที่ใช้ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดของจีนคอมมิวนิสต์แบบ 31 อันเป็นเครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองสำหรับการค้า เพื่อการจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยที่ 1ที่ 3 พร้อมยึดลูกระเบิดดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 7ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ริบของกลาง
จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 7 วรรคแรกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ลงโทษจำคุก 15 ปี ริบของกลาง
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่า จำเลยที่ 3ได้ร่วมกับพวกมีลูกระเบิดที่ใช้ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 60 ม.ม. จำนวน 373 ลูก ไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ลูกระเบิดของกลางไม่มีชนวนหัวท้ายที่จะนำมา ประกอบเข้าด้วยกันจึงไม่เป็นวัตถุระเบิดซึ่งอยู่ในสภาพใช้ทำการยิงได้นั้น เห็นว่าลูกระเบิดของกลางแต่ละลูกก็มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเองพร้อมที่จะใช้งานหากนำชนวนหัวและชนวนท้ายมาประกอบเข้าด้วยกันก็จะสามารถทำการยิงได้ทันที ดังนี้ ลูกระเบิดของกลางจึงเป็นวัตถุระเบิดหรือเครื่องกระสุนปืนตามความหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2) และ (3)
พิพากษายืน

Share