คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมใบสำคัญทหารกองเกินของคณะกรรมการอำเภอบางรักและใช้ใบสำคัญทหารกองเกิน แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเอกสารที่ปลอมนั้นทำจากอำเภอยานนาวา ก็เป็นเพียงรายละเอียด หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ จำเลยก็นำสืบว่าไม่เคยขึ้นทะเบียนทหารไว้ที่ไหนเลย จึงมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลอมใบสำคัญทหารกองเกินและใช้ใบสำคัญทหารกองเกินซึ่งจำเลยทำปลอมขึ้น ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยใช้เอกสารปลอมและใบกองเกินที่โจทก์ฟ้องว่าปลอมเป็นของคณะกรมการอำเภอบางรัก แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเอกสารที่ว่าปลอมนั้นทำจากอำเภอยานนาวา เอกสารนี้เป็นข้อสารสำคัญจึงพิพากษาให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความแตกต่างของใบสำคัญที่ว่าเป็นของอำเภอไหนไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะจำเลยรับว่าไม่เคยขึ้นทะเบียนทหารไว้ที่ไหนเลย ข้อสำคัญก็คือ จำเลยใช้ใบสำคัญทหารกองเกินที่จำเลยรู้ว่าปลอม และจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ พิพากษากลับ ลงโทษจำคุกจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นสำคัญของคำฟ้องมีว่า จำเลยปลอมใบสำคัญทหารกองเกินและใช้ใบสำคัญทหารกองเกินซึ่งจำเลยทำปลอมขึ้นส่วนใบสำคัญทหารที่จำเลยทำปลอมขึ้นนั้น จะปลอมเป็นของอำเภอไหนก็เป็นเพียงรายละเอียด หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ จำเลยก็นำสืบว่าไม่เคยขึ้นทะเบียนทหารไว้ที่ไหนเลย เห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เลย ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ แต่ข้อเท็จจริงในประเด็นที่ว่า เอกสารดังกล่าวปลอมหรือไม่ และจำเลยได้ใช้เอกสารปลอมโดยรู้หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย จึงย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นดังกล่าวแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

Share