คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ชื่อในโฉนด ,กรรมสิทธิตรัสตีประพฤตติผิดหน้าที่ วิธีพิจารณาแพ่งสืบคัดค้านโฉนด พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดินเป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิโดยเด็ดขาด เพราะตามมาตรา 38 ยอมให้ศาลสั่งแก้โฉนดได้ตามคำตัดสินการที่มีชื่อผู้ 1 ผู้ใดในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธินั้น เมื่อปรากฎว่ามีการกลฉ้อฉลในการขอลงชื่อในโฉนดหรือประพฤติผิดหน้าที่ตรัสตีแล้วยอมให้สืบพะยานพิศูจน์ได้(เทียบฎีกาที่ 443/2463) ป.พ.พ.ม.798 เพียงแต่มีชื่อในโฉนดที่ดินของอีกคน 1 จะถือว่าเป็นตัวแทนของคนนั้นไม่ได้เสมอไปต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริงตามพฤตติการณ์ที่แต่งตั้งกันไว้หรือไม่ พะยาน คำพะยานที่เบิกความเกี่ยวข้องในกรณีศาลรับฟังไว้

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทเพื่อประสงค์จะแบ่งให้บุตร์ โจทก์มิได้ลงชื่อในโฉนดแต่ลงนามบุตรีคนใหญ่คือจำเลยในโฉนดโดยโจทก์เชื่อว่าจำเลยคงจะดูแลกิจการในครอบครัวแลระวังผลประโยชน์ของบรรดาน้องเล็ก ๆ บัดนี้จำเลยประพฤติตนให้โจทก์หมดความเชื่อถือแลจะเอาที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ โจทก์จึงฟ้องขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดใส่ชื่อโจทก์แทนแลแสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่พิพาท
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินให้ถอนชื่อจำเลยจากเป็นผู้ถือกรรมสิทธิในที่ดินตามโฉนด
จำเลยฎีกาคัดค้านว่าคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔๓/๒๔๖๓ ซึ่งศาลล่างอ้างเป็นบันทัดฐานนันถือ โฉนดแผนที่เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ เว้นแต่จะปรากฎว่าได้มีกลฉ้อฉลในการขอลงชื่อในโฉนดหรือประพฤติผิดหน้าที่ตรัสตี จึงจะยอมให้สืบพะยานคัดค้านโฉนดได้ ฉะนั้นที่ศาลล่างวินิจฉัยว่าการลงชื่อจำเลยในโฉนดไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธินั้นจึงไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาที่ ๔๔๓/๒๔๖๓ ได้วางหลักไว้ว่า การที่ผู้ ๑ ผู้ใดมีชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธินั้นไม่เป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิของผู้นั้นโดยเด็ดขาด แต่ในคดีที่ร้องขอถอนชื่อออกจากโฉนดนั้นยอมให้สืบพะยานพิศูจน์ว่ามีกลฉ้อฉลในการขอลงชื่อในโฉนดหรือประพฤติผิดหน้าที่ตรัสตีในระวางตรัสตีแลผู้รับประโยชน์จากตรัสตี แลคดีนี้เมื่อจำเลยเรียกร้องเอาที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของตนก็ได้ชื่อว่าประพฤตติผิดหน้าที่ตรัสตี ฎีกาที่อ้างมาจึงตรงกับรูปคดีนี้ แลพระราชบัญญัติการออกโฉนดที่ดินก็มิได้บัญญัติไว้เลยว่า โฉนดที่ดินเป็นหลักฐานแห่งกรรมสิทธิ ผู้อื่นจะเถียงคัดค้านมิได้ เพราะในมาตรา ๓๘ แห่ง พ.ร.บ.นี้ก็ว่าไว้ว่า คดีเกี่ยวข้องด้วยกรรมสิทธิที่ดินที่ได้ออกโฉนดตาม พ.ร.บ.นี้เมื่อศาลได้ตัดสินเป็นประการใดแล้ว ให้ศาลเมื่อศาลได้ตัดสินเป็นประการใดแล้ว ให้ศาลมีจดหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานทะเบียนที่ดินทราบคือให้นายทะเบียนแก้ทะเบียนตามคำวินิจฉัยของศาล
ส่วนข้อคัดค้านของจำเลยทีว่าตามมาตรา ๗๙๘ แห่งประมวลแพ่ง การตั้ง่ตัวแทนเพื่อซื้อขายที่ดินต้องทำเป็นหนังสือฉะนั้นที่ศาลล่างยอมรับฟังคำพะยานบุคคลในข้อตัวแทนจึงมิชอบนั้นเห็นว่ มาตรานี้จะใช้บังคับมิได้ เพราะตามคำพะยานแสดงให้เห็นว่าโจทก์เองเป็นผู้ซื้อที่รายนี้ แลมิได้ใช้จำเลยเป็นตัวแทนในกิจการนั้นข้อคัดค้านของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น
กับข้อคัดค้านของจำเลยอีกข้อ ๑ ที่ว่าศาลล่างรับฟังคำให้การของ อ. ซึ่งเบิกความตามถ้อยคำที่โจทก์พูดแก่พะยานในขณะซื้อขายที่ดินรายนี้นั้นมิเป็นการมิชอบ เห็นว่าที่ อ. เบิกความว่าได้ขายที่ให้โจทก์แลได้รับเงินค่าที่จากโจทก์นั้นเป็นข้อเกี่ยวข้องในกรณีแลที่ศาลล่างถือว่าคำให้การพะยานปากนี้แลพะยานปากอื่น ๆ เบิกความประกอบสมคดีโจทก์นั้นชอบแล้ว จึงตัดสินยืน

Share