แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อ.ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์เบิกความว่า บริษัทโจทก์จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดส่งใบรับรองภาษาอังกฤษของหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรอง พร้อมกับคำแปล นอกจากนี้ใบมอบอำนาจซึ่งมีคำแปรประกอบก็ปรากฏว่า ท. ประธานกรรมการบริษัทโจทก์เป็นผู้มอบอำนาจและแต่งตั้งให้ อ. ฟ้องคดีนี้ มี ม. ผู้จัดการหอการค้ารับรองลายเซ็นชื่อ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรับรองลายเซ็นของผู้จัดการหอการค้าฯ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวรับรองลายเซ็นชื่อของเจ้าพนักงานกระทรวงการต่างประเทศอีกชั้นหนึ่ง ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารแท้จริง และมิได้เถียงว่าคำแปลไม่ถูกต้อง จึงเป็นการเพียงพอที่จะให้ฟังได้ว่าบริษัทโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลมอบอำนาจให้ อ.ฟ้องคดีนี้แทนได้ และคดีหาจำเป็นต้องมีพยานบุคคลมาสืบการแปลเอกสารนั้นอีกไม่
เครื่องหมายการค้าของโจทก์พิมพ์เป็นอักษรโรมันไว้ที่หีบห่อ(กล่อง) สำหรับบรรจุสินค้าเครื่องกันสะเทือนว่า KAYABA และ KYB ส่วนของจำเลยใช้คำว่า KAYADA และ KYD ซึ่งต่างกับของโจทก์เพียงอักษร D ส่วนของโจทก์เป็นอักษร B เท่านั้น นอกนั้นเหมือนกันหมดทุกตัวอักษร ทั้งสำเนียงการอ่านก็คล้ายกัน ลักษณะหีบห่อ(กล่อง) สีสรร ตลอดจนการวางรูปของตัวอักษรก็เหมือนกันหรือคล้ายกับของโจทก์ที่สุด และยังใช้สินค้าเครื่องกันสะเทือนเหมือนกัน ดังนี้ นับได้ว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงผิดว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เครื่องหมายการค้าของจำเลยจึงมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาก่อนจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และเป็นการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ดีกว่าจำเลย และชอบที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าฝ่ายใดสมควรที่จะได้รับการจดทะเบียนดีกว่ากันนั้นได้
ในกรณีดังกล่าว แม้โจทก์จะมีสิทธิจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ดีกว่าจำเลย และจำเลยไม่มีสิทธิจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย เพราะเป็นการเลียนแบบล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และนับแต่ได้ใช้พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาจนถึงวันฟ้องก็เป็นเวลาเกินกว่า 5 ปีแล้ว ดังนี้ โจทก์จึงนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันหรือเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 29 วรรคแรก และกรณีไม่ต้องด้วยวรรค 2 เพราะไม่มีประเด็นเรื่องการลวงขาย โจทก์จึงหมดสิทธิเรียกค่าเสียหายให้การล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าจากจำเลย และตราบใดที่โจทก์ยังไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ให้บริบูรณ์ตามกฎหมายเสียก่อน โจทก์ย่อมไม่สิทธิที่จะร้องขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้จำเลยผลิตสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลย และไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเรียกเก็บคืนซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าของจำเลยจากตลาดการค้าได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ผลิตจำหน่ายเครื่องอุปกรณ์ยานพาหนะทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย ในประเทศไทยโจทก์ตั้งให้นายอัลเบิร์ต ไลแมน เป็นตัวแทนในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์เป็นเจ้าของผู้คิดค้นประดิษฐ์ คำว่า KAYABA และ KYB ใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องอุปกรณ์ยานพาหนะโดยเฉพาะเครื่องกันสะเทือน ได้ส่งไปจำหน่ายทั่วโลก โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายค้าดังกล่าวในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ สำหรับประเทศไทยผลิตภัณฑ์ของโจทก์รวมทั้งเครื่องกันสะเทือนที่มีเครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้ นำเข้ามาจำหน่ายแพร่หลายเป็นที่นิยมเชื่อถือในคุณภาพมากกว่า ๓๐ ปี เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๓ โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์ของโจทก์ในจำพวก ๑๓ ทั้งจำพวก ซึ่งรวมถึงเครื่องกันสะเทือน ต่อมานายทะเบียนแจ้งเหตุขัดข้องในการรับจดทะเบียนว่า เครื่องหมายการค้าเหมือนกับคำขอจดทะเบียนของจำเลยที่ซึ่งยื่นขอจดใช้คำว่า “KYD” และ “KAYADA” ซึ่งต่างก็กำลังดำเนินการจดทะเบียนอยู่ จึงดำเนินการต่อไปไม่ได้จนกว่าจะได้ตกลงกัน หรือนำคดีขึ้นสู่ศาลตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ มาตรา ๑๗ โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยเพิกถอนคำขอจดทะเบียนของจำเลย จำเลยไม่ยอม โจทก์เป็นผู้มีสิทธิในเครื่องหมายการค้า “KAYABA” และ “KYB” ดีกว่าจำเลย เพราะเป็นผู้คิดค้าประดิษฐ์เพื่อใช้กับสินค้าของโจทก์ก่อนจำเลย มีการโฆษณาให้แพร่หลายเป็นที่เชื่อถือและยอมรับถึงคุณภาพในหมู่ผู้ซื้อหาทั้วโลกรวมทั้งประเทศไทยไม่ต่ำกว่า ๓๐ ปี จำเลยมีเจตนาไม่สุจริตนำเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไปแก้พยางค์ท้ายจาก “BA”เป็น “DA” และใช้คำย่อ “KYD” แล้วจงใจนำไปยื่นขอจดทะเบียนโดยเจตนาจะใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยเพื่อใช้กับสินค้าเครื่องกันสะเทือน และเจตนาให้มีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ เพราะเครื่องหมายการค้าทั้งสองมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกัน สำเนียงการเรียกขานและการวางรูป ทั้งใช้ในสินค้าจำพวกเดียวกัน นับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน ก่อให้เกิดการหลงผิดในแหล่งกำเนิด เป็นการขัดขวางการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าที่ได้ยื่นขอจดไว้ การที่จำเลยไม่ตกลงกับโจทก์หรือเพิกถอนคำขอจดทะเบียนของจำเลย เป็นเหตุให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่อาจจดทะเบียนตามคำขอของโจทก์ได้ ทำให้โจทก์เสียหาย ที่จำเลยจงใจใช้เครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จึงขอคิดค่าเสียหายเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้ารายพิพาทดีกว่าจำเลยสั่งให้นายทะเบียนระงับการจดทะเบียนตามคำขอของจำเลย แล้วดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้โจทก์ หรือให้จำเลยเพิกถอนคำขอจะทะเบียน หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องหรือขังขวางการจดทะเบียนตามคำของของโจทก์ ห้ามมิให้ผลิตสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า “KAYADA” และ “KYD” ออกจำหน่าย ให้ริบหรือให้จำเลยเรียกเก็บบรรดาสินค้าซึ่งมีเครื่องหมายดังกล่าวของจำเลยให้หมดสิ้นไปจากตลาดการค้า กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๒๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า บริษัทโจทก์จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องจะมีจริงหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง โจทก์จะเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์เครื่องหมายการค้า KAYABA และอักษรย่อ KYB หรือไม่ ไม่รับรอง และเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ยื่นคำขอมีลักษณะแตกต่างกัน ทั้งการวางรูปและการออกเสียง จึงไม่เป็นการทำให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดเครื่องหมายกาารค้าของจำเลยประดิษฐ์ขึ้นเองเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย จำเลยใช้สิทธิสุจริต โจทก์ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลยและจะเรียกค่าเสียหายหรือห้ามจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้ารายพิพาทดีกว่าจำเลย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๐.๐๐๐ บาทแก่โจทก์ ให้นายทะเบียนระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของจำเลย ห้ามมิให้จำเลยผลิตสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า KAYADA และ KYD ซึ่งเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำหน่าย ให้จำเลยเก็บบรรดาสินค้าที่มีเครื่องหมาย KAYADA และ KYD ให้หมดจากตลาดการค้า
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ยังมิได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตรา ๒๙ โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิที่จะขอให้ห้ามจำเลยมิให้ผลิตสินค้าที่มีเครื่องหมาย KAYADA และ KYD พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเรื่องห้ามมิให้จำเลยผลิตสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า KAYADA และ KYD และให้เก็บสินค้าที่ใช้ตราเช่นว่านี้ให้หมดสิ้นไปจากตลาดการค้าโดยให้ยกเสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ในชั้นฎีกาประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายอัลเบิร์ต ไลแมน พยานโจทก์เบิกความว่า บริษัทโจทก์จะทะเบียนที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทจำกัด นอกจากนี้โจทก์ได้ส่งใบรับรองภาษาอังกฤษของหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของหอการค้าลงนามรับรองไว้ตามเอกสารหมาย จ.๒ พร้อมกับคำแปลภาษาไทยส่งศาลความว่า เครื่องหมายการค้าซึ่งแนบมากับเอกสารฉบับนี้ได้ใช้เป็นอักษรย่อของชื่อห้างโดยบริษัทคายาบา อินดัสตรีย์ จำกัด (เลขที่ ๕ ชิบา ๓ โชเม มินาโตกุ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) แสดงว่าบริษัทคายาบา อินดัสตรีย์ จำกัด เป็นตัวตนตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นจริง ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับกับบริษํทคายาบา โกเกียว กาบูชิกิ ไกชา โจทก์ ปรากฏตามหนังสือการลงพิมพ์เครื่องหมายการค้าของสำนักงานเปเต้นท์ เอกสารศาลหมาย จ.๓ พร้อมคำแปลภาษาไทย ยิ่งได้พิเคราะห์ใบมอบอำนาจภาษาอังกฤษตามเอกสารหมาย จ.๓๕ ซึ่งมีคำแปลเป็นภาษาไทยประกอบด้วยแล้วปรากฏว่าผู้มอบอำนาจและแต่งตั้งให้นายอัลเบิร์ต ไลแมน เป็นตัวแทนในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและในการฟ้องคดีแทนบริษัทโจทก์ คือ ทาทสุจิ อุราเบ ประธานกรรมการบริษัทโจทก์ โดยมี มร.เอส มิยากาวา ผู้จัดการหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งโตเกียวรับรองลายเซ็นชื่อ ทาทสุจิ อุราเบ กับยังมีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรับรองลายเซ็นของผู้จัดการหอการค้าอีกทอดหนึ่งด้ว และในที่สุดสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวก็ได้รับรองลายเซ็นของเจ้าพนักงานกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นอีกชั้นหนึ่ง ส่วนจำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารแท้จริงและคำแปลก็มิได้โต้เถียงว่าไม่ถูกต้อง เช่นนี้ จึงเป็นการเพียงพอที่จะให้ฟังได้ว่าบริษัทโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลมอบอำนาจให้นายอัลเบิร์ต ไลแมน ฟ้องคดีแทน คดีหาจำเป็นต้องมีพยานบุคคลมาสืบการแปลเอกสารนั้นจึงฟังได้ว่า บริษัทโจทก์มีอำนาจฟ้องดังจำเลยฎีกาแต่อย่างใดไม่ และศาลฎีกาเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยว่า จำเลยจะยกเอามาตรา ๒๙ วรรคต้นแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตัดสิทธิฟ้องร้องของโจทก์เกี่ยวกับกรณีพิพาทว่าฝ่ายใดสมควรที่จะได้รับการจะทะเบียนดีกว่ากันไม่ได้นั้น ชอบแล้ว เพราะมาตรา ๒๙ วรรคต้น เป็นเรื่องการล่วงละเมิดสิทธิเครื่องหมายการค้า จึงเป็นคนละเรื่องกัน ฎีกาของจำเลยในประเด็นข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ประเด็นเรื่องเครื่องหมายการค้าของจำเลยมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับของโจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์พิมพ์เป็นอักษรโรมันไว้ที่หีบห่อ(กล่อง) สำหรับบรรจุสินค้าเครื่องกันสะเทือนว่า KAYABA และ KYB ส่วนของจำเลยใช้คำว่า KAYADA และ KYD เครื่องหมายการค้าของจำเลยจึงแตกต่างกับโจทก์เพียงอักษร D ซึ่งของโจทก์เป็นอักษร B เท่านั้น นอกนั้นเหมือนกันหมดทุกตัวอักษร ทั้งสำเนียงการอ่านก็คล้ายกัน ลักษณะหีบห่อ(กล่อง) สะเทือนของจำเลยตามที่ศาลหมาย จ. ๒ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับหีบห่อ(กล่อง) ของโจทก์ศาลหมาย จ.๔๐ เห็นได้ว่าลักษณะหีบห่อ(กล่อง)สีสรร ตลอดจนการวางรูปของตัวอักษรก็เหมือนกันหรือคล้ายกับของโจทก์ที่สุด และยังใช้สินค้าเครื่องกันสะเทือนเหมือนกัน นับได้ว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงผิดว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และจากการนำสืบของคู่ความ รูปคดีเชื่อได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า KAYABA และ KYB มาก่อนจำเลยใช้เครื่องหมายการค้า KAYADA และ KYD ดังศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยไว้โดยละเอียดแล้ว จึงไม่ต้องกล่าวซ้ำ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเลียนเครื่องหมายการค้ายังเป็นการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ด้วย อย่างไรก็ดี แม้โจทก์จึงมีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า KAYABA และ KYB ดีกว่าจำเลย ส่วนจำเลยไม่มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า KAYADA และ KYD เพราะเป็นการเลียนแบบล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ก็ตาม แต่ปรากฏว่านับแต่ได้ใช้พระราชบัญญัติเครื่องหมายกาค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ มาจนถึงวันฟ้องเป็น เป็นเวลาเกินกว่า ๕ ปีแล้ว โจทก์ก็หาได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า KAYABA และ KYB แต่อย่างใดไม่ ดังนั้น โจทก์จึงนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันหรือเรียกค่าเสียหายในการล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตรา ๒๙ วรรคแรก และกรณีไม่ต้องด้วยวรรค ๒ เพราะไม่มีประเด็นเรื่องการลวงขาย คดีโจทก์จึงหมดสิทธิเรียกค่าเสียหายให้การล่วงสิทธิเครื่องหมายการค้า ที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโจทก์เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
ประเด็นที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้จำเลยผลิตสินค้าที่เครื่องหมาย KAYADA และ KYD และให้เก็บสินค้าที่ใช้ตราเช่นนั้นให้หมดสิ้นจากตลาดการค้า ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตราบใดที่โจทก์ยังไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ให้บริบูรณ์ตามกฎหมายเสียก่อน โจทก์ย่อมไม่สิทธิที่จะร้องขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้จำเลยผลิตสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้า KAYADA และ KYD ของจำเลยอยู่ตราบนั้น สำหรับคำขอให้เก็บสินค้าที่ใชัตราเช่นว่านั้นให้หมดสิ้นไปจากตลาดการค้า ก็บังคับไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่อขณะนี้โจทก์ยังไม่อาจขอให้ศาลสั่งห้ามให้จำเลยผลิตสินค้าที่มีเครื่องหมายของจำเลยได้แล้ว สำหรับสินค้าที่จำเลยจำหน่ายออกไปแล้ว โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้เรียกเก็บคืนซึ่งสินค้าเหล่านั้นจากตลาดการค้าได้ ฎีกาของโจทก์เกี่ยวกับคำของดังกล่าวจึงตกไป
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะค่าเสียหาย ๑๐,๐๐๐ บาท เป็นว่าจำเลยไม่ต้องชำระแก่โจทก์ นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
(เฉลิม กรพุกกะณะ ชลอ จามรมาน พิสัณห์ สีตเวทย์)