คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้น ย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีมีดเป็นอาวุธบุกรุกเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นเคหสถาน อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุขแล้วจำเลยใช้อาวุธมีดขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒, ๓๖๕ จำคุก ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีได้ความว่าภริยาจำเลยทะเลาะกับมารดาจำเลยแล้วออกจากบ้านมาเช่าห้องอยู่ในตึกแถวที่เกิดเหตุในวันที่เกิดเหตุนั้นเองจำเลยกับพวกได้ไปติดตามภริยาที่ตึกแถวที่ภริยาเช่าอยู่จึงเกิดเป็นคดีนี้ขึ้น ปัญหามีว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานบุกรุกตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มีผู้เสียหายและพี่ชายผู้เสียหายมาเบิกความว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยถือมีดเข้าไปไล่ฟันผู้เสียหายทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน จำเลยก็รู้จักนางสาวสมบูรณ์และนางสาวลำดวนพี่สาวผู้เสียหายดี และไปมาหาสู่กับนางสาวลำดวนบ่อย ๆ อยู่ ๆ จำเลยก็ถือมีดเข้าไปในบ้านไล่ฟันผู้เสียหาย คำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ทั้งสองไม่ชอบด้วยเหตุผล ไม่มีน้ำหนักที่จะให้เชื่อได้ พยานฝ่ายจำเลยที่ว่าจำเลยได้ติดตามภริยาจำเลยซึ่งมาขอแบ่งเช่าห้องในตึกที่เกิดเหตุโดยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตึกผู้เสียหาย แล้วเกิดปากเสียงท้าทายกับเพื่อนผู้เสียหายในตึกที่เกิดเหตุ มีเหตุผลรับฟังได้ เห็นว่าการที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุ เพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้น ย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุขของผู้เสียหายไม่
พิพากษายืน.

Share