คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันทั้งส่วนของตนและส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์ โดยไม่ได้ขออนุญาตศาลขายส่วนของจำเลยที่ 2 สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 คงผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 1 ต่อมาเมื่อจำเลยที่ 2บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้โอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ซึ่งรับซื้อไว้โดยรู้ข้อความจริงที่ทำให้โจทก์ผู้ทำสัญญาจะซื้อขายไว้ก่อนเสียเปรียบ โจทก์ย่อมขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 3 เสียได้
เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์โดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้และโจทก์ไม่อาจบังคับตามสัญญาให้จำเลยขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ได้ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์
เรื่องค่าเสียหายนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาคัดค้าน แต่เมื่อโจทก์จะได้รับ โอนที่พิพาทครึ่งแปลง ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจลดค่าเสียหายลงได้ตามส่วน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ตกลงขายที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันให้แก่โจทก์ในราคา 17,000 บาท ตกลงกันชำระราคาเป็นงวด ๆ งวดสุดท้ายชำระในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่างที่โจทก์ผ่อนชำระเหลือเพียงงวดสุดท้ายจำเลยทั้งสองได้สมคบกับจำเลยที่ 3 โอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 รู้อยู่ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ทำให้โจทก์เสียเปรียบขอให้ศาลพิพากษาว่าการซื้อขายระหว่างจำเลยทั้งสามเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนทำลายเสีย ถ้าไม่อาจเพิกถอนทำลายได้ก็ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินราคาที่ดิน 150,000 บาท (ราคาที่พิพาทขณะฟ้อง) และค่าเสียหายที่โจทก์ก่อสร้างบ่อคอนกรีตและปลูกต้นไม้ลงในที่พิพาทเป็นเงิน 34,476 บาท และค่าเสียหายเป็นรายปี ๆ ละ 4,320 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 3 ให้การว่าได้รับซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาจะขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 โดยมิได้ขออนุญาตศาลก่อน สัญญาดังกล่าวไม่ผูกพันจำเลยที่ 2แต่โจทก์และจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินทั้งแปลง สัญญานี้แบ่งแยกเป็นตอน ๆ ไม่ได้ ทั้งที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมมิได้แยกเป็นสัดส่วนโจทก์จึงบังคับให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาททั้งหมดให้แก่โจทก์ไม่ได้พิพากษาให้จำเลยใช้ราคาที่ดินซึ่งควรเป็น 50,000 บาท และค่าเสียหายอีก10,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในเงินค่าเสียหายนับแต่วันฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าของรวมที่พิพาทจำเลยที่ 1เอาที่พิพาททั้งแปลงไปทำสัญญาจะขายให้แก่โจทก์ แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2รู้เห็นด้วย แต่ขณะนั้นจำเลยที่ 2 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และจำเลยที่ 1 ผู้ใช้อำนาจปกครองมิได้ขออนุญาตศาลในการทำนิติกรรมดังกล่าว สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 คงผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 1 ในอันที่จะโอนขายเฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์เท่านั้น เมื่อจำเลยที่ 1 นำที่พิพาทไปขายให้จำเลยที่ 3 ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าจะทำให้โจทก์เสียเปรียบ และจำเลยที่ 3ผู้รับโอนก็ได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ผู้ทำสัญญาจะซื้อขายไว้ก่อนเสียเปรียบ โจทก์จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 3 เสียได้

เมื่อจำเลยที่ 1 ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทในส่วนของจำเลยที่ 2ให้แก่โจทก์ด้วยโดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้แล้ว ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้ขายที่พิพาทส่วนนั้นให้จำเลยที่ 3 ไป โจทก์ไม่อาจบังคับตามสัญญาให้จำเลยที่ 2 โอนขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์ได้ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายที่โจทก์ได้รับ อันได้แก่ราคาที่พิพาทเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 2 และค่าบ่อน้ำและต้นไม้ที่โจทก์ปลูกลงในที่ดินส่วนนั้น

ค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นให้ค่าที่ดิน 50,000 บาท และค่าเสียหายที่โจทก์ขุดบ่อน้ำ 10 บ่อ กับค่าปลูกต้นผลไม้อีก 10,000 บาทนั้นสมควรแล้วเมื่อโจทก์จะต้องสูญเสียต้นผลไม้และบ่อน้ำเฉพาะที่อยู่ในที่ดินส่วนของจำเลยที่ 2 เท่านั้น จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชดใช้เพียง 5,000 บาท

ในเรื่องจำนวนค่าเสียหายนี้ แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาคัดค้านแต่เมื่อโจทก์จะได้รับโอนที่พิพาทครึ่งแปลง ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจลดค่าเสียหายลงได้ตามส่วน

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 1 ที่ขายให้แก่จำเลยที่ 3 ให้ใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยที่ 3 เป็นเนื้อที่ครึ่งแปลง ต่อเมื่อโจทก์ได้ชำระราคาที่ค้างอยู่ 3,120บาทแก่จำเลยที่ 1 แล้ว และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ 30,000บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตรา 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวแก่จำเลยที่ 2 คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยกเสีย

Share